ปัญหาชาวบ้านผู้เป็นสมาชิกเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ ตำบลนาดี อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ สรุปแล้ว หลังจากที่ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอยางตลาด จัดคู่กรณีเผชิญหน้าเจรจาไกล่เกลี่ยทางแพ่ง ผลสรุปยอมจ่ายให้ญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ศพ แต่จ่ายแค่ครึ่งเดียวและนัดชำระเงินในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้
จากกรณี ญาติและสมาชิกเงินกองทุนฌาปนกิจศพ ชาวตำบลนาดี อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าขอความเป็นธรรมกับตำรวจ โดยอ้างว่ากองทุนฌาปนกิจศพฯ ปฏิเสธการจ่ายเงินจากการเสียชีวิตให้กับชาวบ้านรวม 11 ศพ เป็นเงินเกือบ 1 ล้านบาทนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2561 ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ศักดินันท์ มูลมณี ผู้กำกับการสถานีตำรวจอำเภอฆ้องชัย รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอยางตลาด พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศักดิโชติ ประสานเกษม รอง ผกก.(ป.), พ.ต.ท.ปฏิวัติ ประวิเศษ รอง ผกก.(สส.), และ ร.ต.อ.อดิศักดิ์ บุญไชโย พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านตำบลนาดี นำโดยนายแพง ภูมิ่งแก้ว อายุ 72 ปี และชาวตำบลนาดีจำนวน 20 คน ได้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกับ ดาบตำรวจเดชา ภูผาสุข เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอท่าคันโท ในฐานะอดีตเลขาสมาคมสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อเดือนปลายเดือนธันวาคม 2559 ชาวบ้านได้เข้ามาแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวัน ให้ตำรวจได้ติดตามตัวดาบตำรวจเดชา ฯ ซึ่งชาวบ้านตำบลนาดีอ้างว่าเป็นผู้ชักชวนให้มาฝากเงินฌาปนกิจศพ ตามข้อตกลงรายเดือนๆละ 200 บาท และรายปีเป็นค่าบำรุงคนละ 100 บาท โดยมีข้อตกลงหากเสียชีวิตจะได้เงินฌาปนกิจศพๆละ 90,000 บาท แต่ปรากฏว่า กองทุนดังกล่าวปฏิเสธการจ่ายเงินก่อนที่จะประกาศปิดตัวในปี 2557 ซึ่งคงจ่ายเงินตกค้างจำนวน 11 ศพให้แก่ญาตินั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.ศักดินันท์ มูลมณี รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอยางตลาด ได้เปิดห้องประชุมให้ทำการไกล่เกลี่ย เนื่องจากเป็นการเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่ง โดยผลการเจรจามีผลสรุปร่วมกัน โดยทางกองทุนฯ ยินดีที่จะจ่ายเงินส่วนที่เหลือ แต่จะจ่ายเพียงศพละ 45,000 บาท ซึ่งก็ทำให้ชาวบ้านพอใจ เนื่องจากมีการพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาการบริหารจัดการที่ไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ อีกทั้งยังประสบปัญหาการตายต่อเนื่องจากสมาชิกในกองทุนฯ
ด้านดาบตำรวจเดชา ภูผาสุข กล่าวว่า ถือเป็นการบริหารที่ผิดพลาดของกองทุน เนื่องจากที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2557 ตนได้ลาออกมาก่อน เพราะภายหลังก่อตั้งกองทุน แต่เดิมจะให้สมัครได้ไม่เกินอายุ 60 ปี ในปี 2554 แต่มาในระยะหลังมีการเปิดให้บุคคลที่มีอายุมากกว่า 60 ปีเข้าไปสมัคร โดยไม่มีการตรวจสุขภาพ จึงทำให้ไม่สามารถบริหารได้ เพราะมีสมาชิกที่สมัครในกองทุนฯเสียชีวิตมากขึ้นทุกปี จึงเป็นปัญหาการจ่ายเงินฌาปนกิจศพ ยืนยันว่าการทำงานต้องการช่วยเหลือสังคมชุมชน แต่เมื่อไม่ได้สามารถบริหารได้ และมีการพูดคุยจนเข้าใจ ก็พร้อมที่จะนำเงินมาชำระ โดยได้นัดหมายกันในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้
ด้านนายแพง ภูมิ่งแก้ว อายุ 72 ปี ตำบลนาดี อำเภอยางตลาด กล่าวว่า ต้องขอบพระคุณสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากไม่ได้สื่อและตำรวจ ก็คงไม่สามารถจบเรื่องนี้ได้ เพราะชาวบ้านต้องการเงินในยุคนี้ จึงได้สมัครเป็นสมาชิกและพากันฝากเงินกับกองทุนดังกล่าว หวังเป็นเก็บและนำมาใช้จ่ายในงานฌาปนกิจ ซึ่งข้อตกลงในการชำระให้ครึ่งหนึ่งก็พอใจ และก็พร้อมที่จะจบเรื่องกันไป
ด้านพ.ต.อ.ศักดินันท์ มูลมณี กล่าวว่า เมื่อมีผู้รับผิดชอบก็ต้องจบเรื่องกันไป เพราะข้อตกลงอีกอย่างก็เป็นการรักษาเกียรติของตำรวจ เพราะต้องยอมรับว่า ดาบตำรวจเดชาฯ เป็นผู้ชักชวน ในเมื่อรับผิดชอบตกลงกันได้ก็ต้องจบกันไป และก็ขอเตือนให้กับประชาชนที่มีการจัดตั้งกองทุนในลักษณะนี้ ว่าควรจะต้องตรวจสอบความเข้มแข็งและวิธีการให้รัดกุม เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีปัญหาในลักษณะแบบนี้ต่อไป
