คณะกรรมการจัดงานมหัศจรรย์ถิ่นผู้ไทย ราชินีไหมแพรวา พุทธาหวานบ้านโพน ครั้งที่ 3 ออกมาขอโทษต่อสังคมโลกโซเชียลยืนยันเป็นการตัดสินของคณะกรรมการแต่อาจไม่ถูกใจผู้เข้าประกวดพร้อมปรับปรุงงานให้ดียิ่งขึ้น
กรณีมีการโพสเฟสบุ๊ค โดยสาวประเภทสองต่อว่าผลการตัดสินการประกวดงานมหัศจรรย์ถิ่นผู้ไทย ราชินีไหมแพรวาพุทธาหวาน ครั้งที่ 3 ภายหลังเสร็จสิ้นผลการประกวด เมื่อคืนวันที่ 26 มกราคม 2561 จนกลายเป็นกระแสต่อว่า คณะกรรมการลามไปจนถึงผู้จัดงานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงต่อทางจังหวัดโดยเฉพาะผ้าไหมแพรวาที่กำลังมีการยกระดับให้ตรงต่อความต้องการของตลาด
เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 เวลา 11.00 น.ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานเทศบาลตำบลโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ นายณฐอร การถัก ปลัดเทศบาลตำบลโพน ในฐานะรักษาราชการนายกเทศบาลตำบลโพน เป็นผู้อำนวยการจัดงาน มหัศจรรย์ถิ่นผู้ไทย ราชินไหมแพรวา ครั้งที่ 3 พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลและคณะกรรมการจัดงานบางส่วนออกมาเปิดใจ โดยกล่าวว่าไม่มีเจตนาที่จะทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้แต่การจัดงานก็เป็นการสืบสานงานต่อเนื่องจากมีการจัดงานมาแล้ว 2 ครั้งที่ประสบผลสำเร็จแต่เนื่องจากในปีนี้เป็นการจัดงานเฉพาะเทศบาลก็ตั้งใจที่จะให้งานออกมาดีแต่เมื่อเกิดปัญหาก็ต้องขอโทษและพร้อมที่จะปรับปรุงใหม่ในปีหน้า
นางณฐอร การถัก ปลัดเทศบาลตำบลโพน อำเภอคำม่วง กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากโลกโซเชียล เพราะ เจ้าหน้าที่ทุกคนตั้งใจที่จะทำให้งานนี้ออกมาดี เพราะในปี 2559-60 งานนี้ได้รับการสนับสนุนจากทางจังหวัด แต่ในปีนี้งบประมาณที่ใช้ได้รับการอนุมัติจากสภาเทศบาลตำบลบ้านโพน เป็นเงิน 5 แสนบาท. ทำให้งานในปีนี้ไม่ยิ่งใหญ่เหมือนทุกปี ก็เปรียบเหมือนงานบ้านระดับชุมชนคงเทียบกับงานจังหวัดไม่ได้ แต่ทุกคนมีความตั้งใจทำเพื่อพัฒนาให้ผ้าไหมแพรวาติดตลาดและถือเป็นกิจกรรมของชุมชน
กรณีกลุ่มสาวประเภทสอง ไม่พอใจผลการตัดสิน ตนยืนยันว่า ตนเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะผลการตัดสินถือว่าเป็นที่สุด เนื่องจากเป็นการประกวดชุดราตรีแพรวา ผลการตัดสินก็ออกมาจากคณะกรรมการทั้ง 4 คน ที่มีมติเป็นเอกฉันท์ โดยเกณฑ์การประกวดนั้นก็ให้ใช้ผ้าไหมแพรวาเป็นส่วนในการประกอบซึ่งได้มีการลงประกาศชัดเจนในเพจที่ทำโดยสำนักงานเทศบาลตำบลโพน. และยืนยันว่าไม่มีผ้าไหมแพรวาปลอม อีกทั้งผู้เข้าประกวดคณะกรรมการก็ยังใช้เกณฑ์การตัดสินในเรื่องบุคลิกภาพของผู้เข้าประกวดด้วย
นางณฐอร การถัก ปลัดเทศบาลตำบลโพน กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าเสียใจต่อเหตุการณ์ แต่ไม่ท้อเพราะถือเป็นบทเรียนราคาแพง ที่อาจจะมีปัญหาในด้านการสื่อสารสำหรับผู้นำชุดเข้าประกวด ที่จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้เข้าประกวดจะต้องตีโจทย์ในการประกวดให้ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ก็ต้องขอโทษชาวบ้านโพน ชาวกาฬสินธุ์ และประชาชนทุกท่านโดยเฉพาะในโลกโซเชียล
“การจัดงานในภาพรวมก็ยังคงทำให้ตลาดผ้าไหมแพรวามีความคึกคักเกิดการซื้อการขาย ชาวบ้านในชุมชนก็เกิดความตื่นตัวมาขึ้น” สำหรับในกรณีคำถามว่า จะมีการติดต่อ เพื่อเคลียร์ใจหรือมีการติดต่อพูดคุยกันหรือไม่ ปลัดเทศบาลตำบลโพน กล่าวว่า น้องๆกลุ่มนี้กลับกรุงเทพไปแล้ว แต่ในอนาคตก็จะมีการติดต่อเพื่อพูดคุยกันให้เกิดความเข้าใจ เพราะ น้อง ๆ กลุ่มนี้ก็เป็นคนกาฬสินธุ์ ส่วนคำถามว่ามีการล๊อกสเป๊คหรือไม่นั้น ปลัดเทศบาลตำบลโพนยืนยันว่าไม่มีอย่างแน่นอนเพราะไม่มีใครรู้จักกรรมการเป็นการส่วนตัวและกรรมการส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไหมแพรวา
