คณะกรรมการตรวจสอบโครงการ 9101 ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดกาฬสินธุ์เตรียมสรุปผลสอบของตำบลบัวบานส่งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อพิจาณาลงโทษข้าราชการ และผู้นำท้องถิ่นที่แสวงหาผลประโยชน์กับชาวบ้านภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่เกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงกบวอน “บิ๊กตู่”เร่งช่วยเหลือ หลังเกิดปัญหาน้ำท่วมนาข้าวและพันธุ์กบตาย แต่ไร้เงาหน่วยงานเข้ามาให้การช่วยเหลือ
จากกรณีชาวบ้านพบความผิดปกติการซื้อปัจจัยการผลิตโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อฟื้นฟูอาชีพด้านการเกษตรแก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดในหลายพื้นที่ของ จ.กาฬสินธุ์ราคาสูงกว่าท้องตลาด โดยเฉพาะ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด และ อ.นาคู อ.กุฉินารายณ์ อ.ห้วยผึ้ง เขาวง และ อ.สมเด็จ เนื่องจากมีการจัดซื้อปัจจัยการผลิตราคาแพงกว่าท้องตลาด จนชาวบ้านต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าร้องทุกข์กับพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์ดำรงธรรมเรียกร้องให้ตรวจสอบ กระทั่งนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน และหากพบการทุจริตจริงก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561 พ.อ.มานพ ไขขุนทด รอง.ผอ.รมน.กาฬสินธุ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อฟื้นฟูอาชีพด้านการเกษตรแก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลด จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าในการตรวจสอบ หลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยเฉพาะพื้นที่ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งล่าสุดขณะนี้คณะกรรมการกำลังรวบรวมเอกสารและหลักฐานทั้งหมด ก่อนที่จะสรุปผลการสอบสวนส่งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดภายในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณาตามขั้นตอน โดยเฉพาะการดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการ และผู้นำท้องถิ่นที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแสวงหาผลประโยชน์ ทั้งในเรื่องการจัดซื้อปัจจัยการผลิตเอง การจัดส่งปัจจัยการผลิตที่มีราคาสูง และผิดสเปก
พ.อ.มานพ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการพบบิลใบเสร็จรับเงินในการจัดส่งปัจจัยการผลิตของ ต.บัวบาน ที่เป็นชื่อร้านบุญมาพาณิชย์ ซึ่งเป็นคนละร้านกับคู่สัญญา และจากการตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ได้มีการเปิดเป็นร้านค้าและเป็นเพียงบ้านเรือนธรรมดานั้น ทางคณะกรรมการจะประสานไปยังสรรพากรพื้นที่กาฬสินธุ์ และสำนักงานพาณิชย์จ.กาฬสินธุ์ เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบว่ามีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มีการชำระภาษี และมีการออกบิลใบเสร็จเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่
สำหรับการตรวจสอบในพื้นที่ อ.กุฉินารายณ์ เขาวง ห้วยผึ้ง นาคู และ สมเด็จ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และสืบสวนทางทางลับว่ามีข้าราชการ หรือผู้นำท้องถิ่นเข้าไปมีส่วนร่วมในการแสวงหาผลประโยชน์หรือไม่ แต่เบื้องต้นพบการจัดซื้อปัจจัยการผลิตที่สูงกว่าท้องตลาด โดยคณะกรรมการจะรวบรวมเอกสารสรุปผลสอบเป็นรายอำเภอที่เกิดปัญหา และจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ผิดว่ากันไปตามผิด แต่หากทำถูกก็จะต้องให้ความเป็นธรรม เพื่อเป็นไปตามการกำชับของนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ส่วนการดำเนินคดีนั้นทาง ปปท.เขต 4 ขอนแก่นจะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งทราบว่าขณะนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหลายพื้นที่แล้ว และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
อย่างไรก็ตามสำหรับพันธุ์กบของเกษตรกรใน ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีการแจกจ่ายในรอบที่ 3 แต่ก็ยังที่ประสบปัญหากบตายนั้น ล่าสุดพันธุ์กบของชาวบ้านก็ยังทยอยตายลงอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปให้การช่วยเหลือ
นายวิโรจน์ โยธาสิงห์ อายุ 70 ปี หนึ่งในเกษตรกรที่ได้รับแจกจ่ายพันธุ์กบบ้านโคกก่อง ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากชาวบ้านได้รับการแจกจ่ายพันธุ์กบ ซึ่งเจ้าหน้าที่และคณะกรรมการอ้างว่าเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ถึง 3 รอบ แต่ก็ยังประสบปัญหากบตายอย่างต่อเนื่อง เพราะกบที่ได้รับแจกนั้นเป็นโรค และไม่สมบูรณ์ จนทำให้กบที่ชาวบ้านที่เลี้ยงไว้ทยอยตายใกล้จะหมดแล้ว และมีบางรายตายเกลี้ยงบ่อ แต่ปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าวยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้การช่วยเหลือชาวบ้านเลย โดยเฉพาะหน่วยงานที่รับผิดชอบและทางอำเภอยางตลาด ดังนั้นจึงอยากขอความช่วยเหลือไปยัง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งเข้ามาให้การช่วยเหลือชาวบ้านด้วย เพราะเมื่อปีที่ผ่านมาชาวบ้านใน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ประภัยน้ำท่วมอย่างหนัก ทั้งจากพายุและการระบายน้ำของเขื่อน ทำให้ข้าวนาปีถูกน้ำท่วมยาวนานกว่า 3 เดือน ข้าวที่ปลูกไว้เสียหายทั้งหมด
