ตัวแทนกลุ่มคนรักกาฬสินธุ์ต้องพัฒนากาฬสินธุ์ เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ทบทวนมติการยกพื้นที่ศาลากลางหลังเก่าให้เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ก่อสร้างเป็นส่วนสาธารณะ โดยได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนเข้าชี้แจงก่อนจะสรุปยุติปัญหาด้วยการทำประชาพิจารณ์ ย้ำพื้นที่ศาลากลางหลังเก่าคือมรดกของคนกาฬสินธุ์ ต้องให้ประชาชนชาวกาฬสินธุ์เป็นผู้ตัดสินใจ
กรณีคณะแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยตัวแทนประชาชนโดยใช้ชื่อกลุ่มคนรักกาฬสินธุ์ต้องพัฒนากาฬสินธุ์ ได้รวมตัวกันเรียกร้องให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ทบทวนมติ คณะกรรมการบริหารจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560 กรณีการยกพื้นที่ศาลากลางหลังเก่าประกอบด้วย อาคารพิพิธภัณฑ์กาฬสินธุ์หลังเก่าสองชั้นอยู่ด้านหน้าและพื้นที่หน้าศาลากลางจังหวัดยกให้ เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เป็นผู้ดูแลเพื่อพัฒนาสวนสาธารณะ ขณะที่ อาคารศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์หลังเก่า 7 ชั้นยกให้โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินการพัฒนาเป็นศูนย์แพทย์ พยาบาล แต่ปรากฏว่ามติดังกล่าวขัดต่อความต้องการของคนกาฬสินธุ์ โดยกลุ่มคนรักกาฬสินธุ์ นำโดยคณะแพทย์ พยาบาลระบุว่า แต่เดิมพื้นที่แห่งนี้ในปี 2556 ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ทำแผนแม่บทยกพื้นที่ให้โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ไปแล้ว โดยมีแผนในการพัฒนาให้เป็นศูนย์แพทย์ พยาบาล และยกระดับโรงพยาบาลให้มีศูนย์มะเร็ง ศูนย์โรคหัวใจในอนาคต จนเกิดการรวมตัวเคลื่อนไหว เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 14.00 น.ที่ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ หลังใหม่ ตัวแทนกลุ่มคนรักกาฬสินธุ์ นำโดย นายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง นายกเทศมนตรีตำบลยางตลาด อำเภอยางตลาด นายวิรัช พิมพะนิตย์ นพ.ศิวะบูรณ์ ชัยสงคราม แพทย์โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และ นายพลากร พิมพ์พะนิตย์ ส.อบจ.กาฬสินธุ์ และประชาชนจำนวนหนึ่งได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อให้ทบทวนมติ คณะกรรมการบริหารจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือ กบจ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560 และเปิดโอกาสให้ตัวแทนได้ชี้แจงความต้องการของประชาชน โดยใช้เวลาในการหารือนานเกือบ 1 ชั่วโมง ท่ามกลางบรรยากาศที่ชื่นมื่น ภายหลังการพูดคุย
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เรื่องของการมอบพื้นที่ศาลากลางหลังเก่าขอยืนยันว่าพื้นที่ศาลากลางหลังเก่าคือมรดกของคนกาฬสินธุ์ ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ต้องฟังเสียงของประชาชนอยู่แล้วขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจ เบื้องต้นการหารือแนวทางนั้น มีข้อสรุปว่า เมื่อเกิดข้อพาทนี้ การมอบพื้นที่เพื่อการรอมชอมทั้งสองฝ่ายนั้น จะยุติลงด้วยความเป็นธรรมคือ การทำประชาพิจารณ์ โดยจะทำผ่าน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งทางจังหวัดจะนำเรื่องนี้หารือโดยเร็วที่สุดซึ่งทุกอย่างนั้นคือทางออกเพื่อทราบว่าประชาชนในจังหวัดกาฬสินธุ์ ต้องการอะไร ในส่วนของกรอบ เวลา นั้น จะต้องหารือในรายละเอียดอีกครั้ง
“ผมยืนยันว่าจังหวัดกาฬสินธุ์ มีความต้องการให้ประชาชนทุกคนได้รับประโยชน์สูงสุดในผืนแผ่นดินที่เป็นมรดกของคนกาฬสินธุ์ ศาลากลางหลังเก่าเมื่อมีข้อโต้แย้งทางออกก็คือพูดคุยกันให้เข้าใจและจบลงด้วยการทำประชาพิจารณ์ ซึ่งการออกมาเรียกร้องนั้นไม่มีใครถูกหรือใครผิดแต่เป็นสิ่งที่จะหาจุดและความต้องการที่ดีที่สุดเพื่อคนกาฬสินธุ์ ในอนาคตอันใกล้เมื่อมีการทำประชาพิจารณ์ก็จะให้ทั้งสองฝ่ายออกไปชี้แจงถึงผลดีผลต่างระหว่างการยกพื้นที่ให้เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ไปสร้างส่วนสาธารณะ กับ ยกพื้นที่ให้โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ไปสร้างศูนย์ทางการแพทย์ ว่ามีความดีและแต่ต่างกันอย่างไร ดังนั้นผมยืนยันว่าทางจังหวัดไม่นิ่งนอนใจ แต่การทำประชาพิจารณ์เป็นหนทางออกที่ดีที่สุดนั่นเอง” ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวในที่สุด”นายไกรสร กล่าว
ด้าน นายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง นายกเทศมนตรีตำบลยางตลาด กล่าวว่า ในนามกลุ่มคนรักกาฬสินธุ์ต้องพัฒนากาฬสินธุ์ ถือได้ว่าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ยุติปัญหาได้แล้ว ต่อไปคงเป็นหน้าที่ในการรณรงค์ทำประชาพิจารณ์ จึงขอให้พี่น้องประชาชนได้ออกมาแสดงความคิดเห็นและจะยอมรับไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร เพราะถือว่าผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ให้ทางออกที่ดีที่สุดแล้ว
