X

กาฬสินธุ์ผลักดันวัฒนธรรมภูไทเป็นมรดกโลก

จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับกองทุนสนับสนุนการวิจัย มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒมหาสารคาม ระดมนักวิชาการระดับหัวกะทิ ตั้งโต๊ะแชร์ประสบการณ์ ผ่านเวทีเสวนาทิศบ้านทางเมือง เรื่องอนาคตคนกาฬสินธุ์ ตกผลึกพบอัตลักษณ์โดดเด่นสุดคือวัฒนธรรมภูไท ดึงพ่อล่ามแม่ล่ามต้นแบบสร้างชีวิตคู่ ชูธงผลักดันจดทะเบียนกับยูเนสโก ยกวัฒนธรรมภูไท เป็นมรดกโลก

วันที่ 20 มีนาคม 2561 ที่ห้องประชุมบ้านดิน ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงนาคอน มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดเวทีเสวนาทิศบ้านทางเมือง เรื่องอนาคตคนกาฬสินธุ์ โดยมีนายบัญชร แก้วส่อง เลขาธิการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สสว.) นายธวัชวงศ์ชัย ไตรทิพย์ ผู้ประสานงานฯ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ นายบรรยงศ์ อินทร์ม่วง คณบดีคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒมหาสารคาม นายบำรุง คะโยธา ประธานศูนย์ประสานงานภาคีการพัฒนา จ.กาฬสินธุ์ และนักวิชาการจากส่วนราชการ ภาคประชาสังคม จำนวน 30 คนร่วมแสดงความคิดเห็น

นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในขณะนี้ทางจังหวัดได้ร่วมกับทุกภาคส่วนขับเคลื่อนนโยบาย กาฬสินธุ์แฮปปี้เนสโมเดล คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามมิติการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งการสร้างที่อยู่อาศัย มอบทุนในการประกอบอาชีพ และสวัสดิการจากรัฐให้ครบถ้วน 100% ตามที่คณะกรรมการระดับจังหวัดได้ลงไปติดตามในพื้นที่ปรากฏว่า มีผลเป็นที่น่าพอใจ สร้างความเป็นธรรมเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำไปได้ในระดับหนึ่ง ส่วนในมิติต่อไปคือการยกระดับรายได้ให้คนกาฬสินธุ์มีรายได้เพิ่มขึ้น 10 % ภายในปี 2562 จากภาคการเกษตร อุตสาหกรรม การศึกษา และการท่องเที่ยว โดยเชิดชูวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นจุดเด่นเพื่อเป็นจุดขาย โดยเฉพาะวัฒนธรรมภูไท ที่โดดเด่น เพื่อดึงดูดท่องเที่ยว ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้มาสัมผัส เที่ยวชม นำมาสู่การเกิดรายได้ที่มั่นคง และความภาคภูมิใจที่ยั่งยืน มีอนาคตที่สดใส

นายบำรุง คะโยธา ประธานศูนย์ประสานงานภาคีการพัฒนา จ.กาฬสินธุ์ (ศปจ.กส.) กล่าวว่า ในเวทีเสวนาครั้งนี้เป็นการระดมสมองนักวิชาการ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนภาคประชาชน เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนการพัฒนากาฬสินธุ์ ให้ก้าวผ่านจุดที่เป็นอยู่ โดยร่วมกันหามุมมอง ถอดบทเรียนและออกแบบที่ดี หลังจากที่มีการระดมความคิดจากผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมมาหลายครั้ง และนำมาสู่การจัดเวทีเสวนาในครั้งนี้ ซึ่งได้มีการนำเสนอข้อมูล ในภาวะ VUCA WORLD คือนำเงื่อนไขจากความผันผวนความไม่แน่นอน ความซับซ้อนและความคลุมเครือ มาเป็นข้อมูลให้ตกผลึกว่า คนกาฬสินธุ์จะสร้างอนาคตของตนอย่างไร

ทั้งนี้ หลังจากการนำเสนอล่าสุด คือ เรื่องอาหารปลอดภัย เรื่องผู้สูงวัย วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นสอดคล้องกันว่า จะนำวัฒนธรรมคนภูไทซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของคนกาฬสินธุ์มาต่อยอด โดยจะนำวัฒนธรรมการแต่งงานของคนภูไทดั้งเดิม มาเชื่อมโยงกับพ่อล่ามแม่ล่าม ซึ่งเป็นผู้นำชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน เป็นหลักในด้านวัฒนธรรม และนำเสนออาหารพื้นถิ่นพื้นเมืองที่สะอาด ปลอดภัย เพื่อเปลี่ยนกาฬสินธุ์เป็นเมืองมรดกโลก ด้านการนำเสนอวิถีชีวิตชาวภูไททุกมิติรอบด้าน

ขณะที่นายธวัชวงศ์ชัย ไตรทิพย์ ผู้ประสานงานฯ กล่าวว่าวัฒนธรรมภูไทในเรื่องของความรัก ความสามัคคีของชุมชน เรื่องของความรักคือความประทับใจของทุกคน วัฒนธรรมภูไทซึ่งมีความลึกซึ้งในเรื่องของการแต่งงาน การมีคู่ครองจึงเป็นความสุขที่เสพได้ทั้งกายและใจ หากเป็นอัตลักษณ์ที่แท้จริงของคนกาฬสินธุ์ในถิ่นภูไท ก็จะปลุกให้มีชีวิตใหม่ในมิติของคนกาฬสินธุ์ ได้ลึกซึ้งด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว อาหารปลอดภัยและสังคมผู้สูงวัย โดยมีพ่อล่ามแม่ล่าม หรือปราชญ์ชาวบ้าน ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับในชุมชน เป็นผู้เชื่อมประสาน ทั้งเป็นผู้ให้การอบรมสั่งสอนการครองชีวิตคู่ การปฏิสัมพันธ์ในสังคม โดยเฉพาะที่สำคัญต้องอาศัยสถาบันการศึกษาคือมหาวิทยาลัยฯ เข้ามาเป็นเจ้าภาพทั้งทางวิชาการและงบประมาณ ซึ่งต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยมีธงที่ร่วมกันตั้งไว้คือต้องไปยื่นจดทะเบียนกับยูเนสโก ให้วัฒนธรรมภูไทเป็นมรดกโลกในอนาคต

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน