ญาติเหยื่อรถทัวร์มรณะเผาสองศพสุดท้าย ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ ขณะที่ คปภ.กาฬสินธุ์เปิดศูนย์รับเอกสารผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมเยียวยาครอบครัวญาติผู้เสียชีวิต 18 ศพ
จากกรณีรถทัวร์เช่าเหมา หมายเลขทะเบียน 30-0161 กาฬสินธุ์ ของบริษัทกันเองทัวร์พลิกคว่ำ บริเวณทางหลวงหมายเลข 304 ตอน วังน้ำเขียว – ดอนขวาง ช่วง กม. 242 + 000 ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ทำให้ผู้โดยสารชีวิต 18 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวญาติพี่น้องกันเป็นชาว ต.ห้วยโพธิ์ และ ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยบรรดาญาติพี่น้องได้ทำพิธีฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตไปแล้ว 16 ราย และจะมีการทำพิธีฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตอีก 2 รายวันนี้ 26 มีนาคม 2561
ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณเมรุวัดดงกระยอมอุดมคุณ ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ นายเอกพงษ์ ศรีโคตร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลห้วยโพธิ์ พร้อมเจ้าหน้าที่และญาติได้ร่วมกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจศพนางเรียน ธารวาวแวว ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยจะทำพิธีในช่วงเวลา 14.00 น.เช่นเดียวกันกับบริเวณวัดชัยสุนทร อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ญาติได้จัดเตรียมสถานที่ฌาปนกิจศพนายวิรุฬห์ ตะก้อง ผู้เสียชีวิตรายสุดท้าย โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เดินทางไปเป็นประธานพิธีฌาปนกิจศพทั้ง 2 งาน ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติพี่น้อง
ข่าวน่าสนใจ:
- ชัยภูมิ นทท.แห่สัมผัสทะเลหมอกน้ำค้างแข็งหลายพื้นที่แตะ 7 องศาคึกคัก!
- ผู้ต้องสงสัยคดีคาร์บอมขัดขืน ดึงพวงมาลัยจนรถเสียหลักพุ่งชนคอสะพานยับ ทหารตาย 1 เจ็บ 3 ส่วนคนร้ายหนีเข้าป่า
- ภูเก็ตจัดพิธีรำลึก "สึนามิ" ครบรอบ 20 ปี ที่หาดป่าตอง-สุสานไม้ขาว
- เปิดแล้วสุดยอดจุดเคาท์ดาวน์ซับสะเลเตบนขุนเขาแห่งดอกไม้ใหญ่สุดในภาคอีสาน!
ด้านนางสาววชิรฏาภรณ์ ธารวาวแวว อายุ 23 ปี ชาวบ้านกลางดง ม.18 ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ หนึ่งในผู้รอดชีวิตและเป็นลูกสาวนางเรียน ธารวาวแวว ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ครอบครัวเดินทางไปครั้งนี้รวม 3 คน ประกอบด้วยตนเอง แม่ และด.ช.ศักดินนท์ ลูกชาย ซึ่งขณะนี้ทางครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของแม่ เพราะเป็นการจากไปอย่างกะทันหันไม่ได้ลำอากัน อีกทั้งลูกชายยังได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีเพราะขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว ทั้งนี้ต่อไปไม่กล้าที่จะเดินทางโดยรถทัวร์อีกแล้ว
ขณะที่นายรัชโยธิน มีพันลม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จ.กาฬสินธุ์ หรือ คปภ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากอุบัติเหตุดังกล่าวทำให้ผู้โดยสาร ซึ่งเป็นชาว จ.กาฬสินธุเสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บอีก 31 ราย โดยหลังเกิดเหตุ ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยได้ติดตามและสั่งการให้บูรณาการทำงานกับทุกหน่วยงานอย่างใกล้ชิดทั้ง คปภ.จ.กาฬสินธุ์ คปภ.นครราชสีมาคภป.ส่วนกลาง และสำนักงาน คปภ.ภาค 4 รวมทั้งรายงานข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุในรูปแบบ Platform เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัยอย่างเร่งด่วนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่และบริษัทประกันภัย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประสบเหตุอย่างทันท่วงที
นายรัชโยธิน กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับญาติของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ได้กำหนดมอบเงินค่าสินไหมให้แก่ทายาทโดยธรรมและผู้รับประโยชน์ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นล่าสุดบริษัทอาคย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน)ได้แจ้งตัวเลขการช่วยเหลือมาแล้ว โดยได้พิจารณาอนุมัติจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถและกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและภาคบังคับในวงเงินความคุ้มครองสูงสุดให้แก่ทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยที่เสียชีวิตทั้ง 18 รายๆละ 650,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 11,700,000 บาท อย่างไรก็ตามมีผู้เสียชีวิตที่ทำประกันชีวิตกับบริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) อีก 5 ราย รวมจำนวนเงิน 11,600,802 บาท นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 4 ราย ที่ทำประกันไว้กับบริษัทชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด มหาชน เป็นเงินสินไหมทดแทนสัญญาประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล โดยบริษัทจะจ่ายให้รายละ 100,000 บาท รวมเป็นเงิน 400,000 บาท ซึ่งจะมีกำหนดการมอบเงินช่วยเหลือในวันพรุ่งนี้ 27 มีนาคม 2561 เวลา 09.00-11.00 น.ที่บริเวณหน้าสำนักงาน คปภ.กาฬสินธุ์ เลขที่ 51/2 ถนนกุดยางสามัคคี ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
นายรัชโยธิน กล่าวอีกว่า ขณะนี้คปภ.จ.กาฬสินธุ์ยังได้เปิดศูนย์บริการรับเอกสารผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่มีความประสงค์ที่จะเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนและค่ารักษาพยาบาล โดยสามารถนำบัตรบัตรประชาชน ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล และใบรับรองแพทย์ระบุอาการบาดเจ็บที่ระบุจำนวนวันที่นอนรักษา เพื่อรับค่าชดเชยค่ารักษาพยาบาลรายวัน ตามพรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ โดยจะได้รับการช่วยเหลือวันละ 200 บาท ไม่เกิน 20วัน ส่วนกรณีการสูญเสียอวัยวะนั้นจะได้รับเงินการช่วยเหลือ 200,000 บาท แต่หากพิการจะคุ้มครอง 300,000 บาท เท่ากับผู้เสียชีวิต
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: