เพื่อนโชเฟอร์รถทัวร์เช่าเหมาเที่ยวมรณะ 18 ศพ ติดต่อขอเข้าให้การกับพนักงานสอบสวน ยันไม่ทราบเพื่อนเสพยาก่อนขับรถ ขณะที่ตำรวจกันเป็นพยาน
จากกรณีรถทัวร์เช่าเหมา หมายเลขทะเบียน 30-0161 กาฬสินธุ์ ของบริษัทกันเองทัวร์ เสียหลักข้ามเกาะกลางถนนชนแผงสินค้าต้นไม้ริมทางและพลิกคว่ำ บริเวณทางหลวงหมายเลข 304 ตอน (กบินทร์บุรี-ปักธงชัย) บริเวณโค้งมะกรูดหวาน ช่วง กม. 242 + 000 บ้านห้วยเค็ม ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ทำให้ผู้โดยสารชีวิต 18 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวญาติพี่น้องกันเป็นชาว ต.ห้วยโพธิ์ และ ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยบรรดาญาติพี่น้องได้ทำพิธีฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตไปแล้วทั้ง 18 ราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบริษัทประกันภัยได้ให้ความช่วยเหลือไปแล้ว พร้อมทั้งแจ้งข้อหานายกฤษณะ จุฑาชื่น คนขับรถทัวร์ และติดตามตัวเพื่อนคนขับอีก 1 คน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2561 นายสุริยนต์ นาคปัญญา อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.2 ต.ไผ่ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยและเป็นเพื่อนกับนายกฤษณะ จุฑาชื่น คนขับรถทัวร์คันดังกล่าว ได้ติดต่อเข้ามายัง พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เพื่อขอให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในฐานะพยาน โดยมี พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร.ต.อ.ธนกาญจน์ พระสุมาตย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งได้รับการประสานงานจาก สภ.อุดมทรัพย์ จ.นครราชสีมา เพื่อทำการสอบปากคำในฐานะพยาน
โดยนายสุริยนต์ นาคปัญญา กล่าวว่า ตนและนายกฤษณะ รู้จักกันมานานแล้ว แต่ไม่สนิทกันมาก โดยหากได้รับการติดไปขับรถนายกฤษณะก็จะนำตนไปเป็นผู้ช่วยคนขับเป็นประจำ และแต่ละครั้งตนก็มีการขับรถช่วยบางครั้งประปราย แต่ขับระยะไม่ไกล เพราะอายุมาก อีกทั้งสายตาไม่ค่อยดี ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุตนและนายกฤษณะ ได้รับการติดต่อว่าจ้างจากเจ้าของกิจการกันเองทัวร์ เพื่อให้ไปขับรถทัวร์เช่าเหมาเที่ยวนำคณะที่เกิดอุบัติเหตุไปยัง จ.จันทบุรี รวม 3 วัน ซึ่งตนในฐานะผู้ช่วย จะได้ค่าแรงวันละ 500 บาท ส่วนนายกฤษณะคนขับหลักจะได้วันละ 600 บาท โดยก่อนเดินทางได้ไปรับคณะนักท่องเที่ยวยังบ้านกลางดง ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งครั้งแรกนั้นมีตนเป็นคนขับไปตามเส้นทาง จ.ร้อยเอ็ด และพอถึงปั้มน้ำมันในตัว อ.วาปีปทุม จ.ร้อยเอ็ด ก็เปลี่ยนให้นายกฤษณะเป็นคนขับต่อไปจนถึง จ.จันทบุรี และขับพาคณะเที่ยวตลอดในช่วง 3 วัน จนพอขากลับตนได้ขับจาก จ.ระยอง มาถึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ก็เปลี่ยนให้นายกฤษณะขับตามเดิม กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งตนนั่งอยู่บริเวณหน้าประตูห้องน้ำด้านล่างได้ยินเสียงผู้โดยสารกรีดร้อง และตะโกนบอกว่ารถเบรกแตก จากนั้นรถก็ชนกับแผงกั้นข้ามเกาะพลิกคว่ำแล้ว
นายสุริยนต์ กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุรถคว่ำตนก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ และพยายามหาช่องทางออกมาจากรถแล้วมองเห็นรถช่วงชั้นสองขาดออกเป็นสองท่อน มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บและน่าจะเสียชีวิตจำนวนมาก ด้วยความตกใจจึงหนีออกมา แล้วไปขออาศัยอยู่กับเพื่อนๆที่เป็นคนขับรถสิบล้อตะเวนส่งของ เพราะกลัวความผิด คิดอะไรไม่ออก และกลัวจะถูกดำเนินคดีด้วย กระทั่งทราบข่าวว่ามีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้มีจำนวนมาก และตนไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการขับรถ จึงประสานเข้ามาเพื่อขอให้ปากคำกับตำรวจ อย่างไรก็ตามส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบสารเสพติดกับนายกฤษณะ และสารภาพว่าเสพยาบ้าก่อนขับรถนั้นตนไม่ทราบ และไม่รู้มาก่อนว่านายกฤษณะเสพยา ซึ่งก่อนเกิดเหตุก็ขับรถปกติดี และรถก็ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าจะชำรุดเสียหาย โดยเฉพาะระบบเบรกเพราะยังใช้งานได้ดีอยู่ในขณะที่ตนขับ
ด้าน ร.ต.อ.ธนกาญจน์ พระสุมาตย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การสอบปากคำนายสุริยนต์ครั้งนี้ ได้รับการประสานงานจาก สภ.อุดมทรัพย์ ให้ทำการสอบปากคำในฐานะพยาน เนื่องจากตำรวจกันตัวเป็นพยาน ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกตามนโยบายผู้บังคับบัญชา โดยหลังจากสอบปากคำเสร็จก็จะส่งไปยัง สภ.อุดมทรัพย์เพื่อประกอบสำนวนต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: