มาแล้วพายุ “คาจิกิ”ตกทั่วฟ้าตั้งแต่เช้ามืด ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วม แจ้งเตือน 5 อำเภอเฝ้าระวัง เคลื่อนย้ายสิ่งของไว้ในที่ปลอดภัย พร้อมรับมือแม่น้ำปาวหนุนสูง ขณะที่หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งล่าสุดยังไม่คลี่คลาย เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ทำให้ฝนตกลงมาทั่วทุกพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดเวลา 04.00 น.ประกอบกับปริมาน้ำฝนตกอย่างต่อเนื่องจากพายุโพดุลตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มวลน้ำยังคงท่วมขังในหลายพื้นที่ ทั้งบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งพืชผลทางเกษตรถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง นอกจากนี้ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมายังทำให้ระดับน้ำในลำน้ำปาวและลำน้ำพานเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากแม่น้ำชีหนุน ทำให้ไหลระบายของน้ำเป็นไปค่อนข้างช้าได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน 340 ครัวเรือนในเขต ต.หลุบ อ.เมืองกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะบ้านเรือนประชาชนที่บ้านสุขสวัสดิ์และบ้านกุดอ้อ ซึ่งได้รับผลกระทบจากลำน้ำปาวต่างขนย้ายสิ่งของขึ้นมาพักอาศัยที่เต็นท์บนถนนที่สูง ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ย้ายไปยังจุดอพยพที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้ เนื่องจากอยากอยู่ใกล้บ้านของตัวเอง นอกจากนี้ระดับน้ำที่สูงขึ้นยังเริ่มไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในบ้านทุ่งสว่าง และบ้านวังเกาะเหล็ก ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์แล้วเบื้องต้นกว่า 100 ครัวเรือน ส่วนสถานการณ์อ่างเก็บน้ำห้วยสีทนที่อยู่ในเขต อ.เมืองกาฬสินธุ์ที่มีปริมาณเกินระดับกักเก็บยังคงล้นอ่างลงมาท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์จำนวน 21 ชุมชน กว่า 1,500 ครัวเรือนถูกน้ำท่วมขัง
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ลำน้ำปาวที่มีปริมาณน้ำยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีฝนตก ล่าสุดทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนในอยู่พื้นที่ฝั่งแม่น้ำลำปาวขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และเตรียมพร้อมอพยพหากเกิดสถานการณ์น้ำท่วม ขณะที่นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยทั้ง 18 อำเภอ เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่ประสบภัย ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชน ตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักที่ทำให้ลำน้ำปาวเพิ่มสูงขึ้น และระดมทุกหน่วยงาสนป้องกันน้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจในตัวเมืองกาฬสินธุ์เพิ่มขึ้นอีก และพื้นที่โดยรอบ 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.ยางตลาด อ.กมลาไสย อ.ร่องคำ และอ.ฆ้องชัย
ขณะที่ให้ความช่วยเหลือล่าสุดมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และมูลนิธิต่างๆได้เร่งเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมและผู้ประสบภัยที่ถูกพายุพัดบ้านพังเสียหายอย่างต่อเนื่อง โดยนายคมสันต์ เหล่าจูม ผู้อำนวยการด้านโรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยผู้บริหารอุทยานมิตรกาฬสินธุ์ด้านอ้อยโรงไฟฟ้าโรงเอทานอลและตัวแทนพนักงานลงพื้นที่ส่งกำลังใจให้พี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยการมอบถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ชุดให้กับผู้ประสบภัยที่อำเภอกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ และ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ส่วนคณะกรรมการเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ รวมทั้งมูลนิธิ เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจได้ช่วยกันทำอาหารและนำเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับผู้ประชาชนในชุมชนต่างเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์อย่างต่อเนื่อง
ด้านพล.ต.ต.ณัฐ สิงห์อุดม ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 พร้อมด้วยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 กองกับการตำรวจชายแดนที่ 21 สุรินทร์กองกับการตำรวจชายแดนที่ 22 อุบลราชธานี กองกับการตำรวจชายแดนที่ 24 อุดรธานี พร้อมใจเป็นจิตอาสาเราทำความดี ด้วยหัวใจ เข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลังจากได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนโพดุล พัดถล่มบ้านเรือนในพื้นที่อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ได้รับความเสียหาย 2 หมู่บ้าน คือบ้านโนนศิลา หมู่ 4 และบ้านสะอาดนาดีกว่าประมาณ 200 หลังคาเรือน เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา โดยมีบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนักจำนวน 25 หลังคาเรือน
