โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาวกาฬสินธุ์ยังปิดประตูระบายน้ำทั้ง 4 บาน เพื่อกักเก็บและหน่วงน้ำช่วงพื้นที่น้ำท่วมตอนล่าง ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมนาข้าวใน 5 อำเภอกว่า 6 หมื่นไร่เริ่มคลี่คลายระดับน้ำลดลงเรื่อยๆ
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 จากการติดตามสถานการณ์น้ำในแหล่งเก็บน้ำต่างๆในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่พบว่ายังคงมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำอย่างต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้มีพายุและจนถึงปัจจุบันยังฝนตกในพื้นที่ ทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังคงปิดประตูระบายน้ำ เพื่อช่วยลดผลกระทบพื้นที่น้ำท่วมตอนล่าง
นายพงศ์ศักดิ์ ณ ศร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์ฝนที่ตกลงมาก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีพายุโพดุลและพายุคาจิกิ ทำให้เขื่อนลำปาวมีปริมาณไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคม 2562 มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างมากกว่า 1,000 ล้าน ลบ.ม.ทำให้ปัจจุบันเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,470 ล้าน ลบ.ม.จากความจุกักเก็บ 1,980 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 74 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตั้งแต่มีพายุเข้าจนถึงปัจจุบันทางเขื่อนได้ปิดประตูทั้ง 4 บานและยังไม่ได้ระบายน้ำ เนื่องจากพื้นที่ตอนท้ายมีน้ำมาก และต้องการที่จะเก็บกักน้ำให้มากที่สุด เพื่อที่จะให้มีน้ำใช้ได้ในทุกกิจกรรม ทั้งอุปโภค บริโภค ทำการเกษตรและประมง
นายพงศ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับในช่วงนี้เป็นนโยบายของกรมชลประทานที่กำลังบริหารจัดการลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูล เพื่อจัดการจราจรน้ำแก้ไขน้ำท่วมในขณะนี้ เพื่อให้สถานการณ์น้ำท่วมน้อยที่สุด ซึ่งแม่น้ำชีกำลังระบายลงสู่พื้นที่ตอนล่าง ดังนั้นลุ่มน้ำชีในตอนบน รวมทั้งอ่างเก็บน้ำต่างๆจะต้องชะลอหรือหน่วงน้ำเอาไว้ เพื่อไม่ให้ไหลไปสมทบกับพื้นที่ท้ายน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี ซึ่งเขื่อนลำปาวเองก็ทำหน้าที่ได้ในการกักเก็บและหน่วงน้ำป้องกันปัญหาน้ำท่วมในช่วงนี้ได้ดี ถือว่าโชคดีสองต่อ เพราะเขื่อนได้กักเก็บน้ำได้ทั้งหมดกว่า 800 ล้าน ลบ.ม.ที่ไหลลงมาในอ่างไว้ป้องกันปัญหาน้ำท่วมได้ระดับหนึ่ง นอกจากจากนี้ยังสามารถที่จะกักเก็บน้ำไว้ใช้ในปี 2563 โดยเฉพาะการทำนาปรังได้อย่างเพียงพอ อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ยังไม่มีพายุฝนเขื่อนลำปาวจะมีน้ำไหลเข้าเฉลี่ยปริมาณ 20-30 ล้าน ลบ.ม.และยังสามารถกักเก็บน้ำได้อีกกว่า 500 ล้าน ลบ.ม.
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่การเกษตรใน 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.ยางตลาด อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย และอ.ร่องคำ ที่เกิดจากฝนตกหนักและแม่น้ำลำปาวหนุนสูงนั้น ขณะนี้สถานการณ์ได้เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำในพื้นที่ และทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงใช้เครื่องผลักดันน้ำจากแม่น้ำลำปาวลงสู่แม่น้ำชีอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยระบายและทำให้น้ำไหลเร็วขึ้น ซึ่งทำให้พื้นที่นาข้าวที่ก่อนหน้านี้ถูกน้ำท่วมกว่า 60,000 ไร่ ลดลงเหลืออยู่ประมาณ 30,000 ไร่ คาดว่าจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติในเร็วๆนี้ จากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่เข้าสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือต่อไป ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนส่วนใหญ่นั้นกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
สำหรับพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ได้ผลกระทบจากฝนที่ตกติดต่อกันมีประชาชนได้รับผลกระทบ 18 อำเภอ 93 ตำบล 576 หมู่บ้าน 24 ชุมชน 10,230 ครัวเรือน 31,145 คน บ้านเรือนที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วม 1,604 หลังคาเรือน ด้านการเกษตรนาข้าว 126,504 ไร่ พืชไร่ 1,713 ไร่ พืชสวน 99 ไร่ ด้านประมง บ่อปลา 950 ไร่ บ่อกุ้ง 1,072 ไร่ ด้านปศุสัตว์โค 1,059 ตัว กระบือ 447 ตัว และไก่ 1,080 ตัว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: