สะเทือนใจคนอำเภอสหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ หลังแก๊งมอดไม้เหิมลอบตัดไม้พะยูงในวัดไตรภูมิกลางดึก ชี้คนร้ายมีความชำนาญและเป็นมืออาชีพ ตัดไม้พะยูงอายุเกือบร้อยปีขึ้นรถหลบหนี ด้านนายอำเภอสั่งการล้อมคอกป้องกันปัญหาอย่างเร่งด่วน
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 7 พ.ค. 61 ว่าที่ร้อยตรีธีระพล โชคนำชัย นายอำเภอสหัสขันธ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประยุทธ อรัญโชติ ผกก.สภ.สหัสขันธ์ ทหารกองพลทหารม้าที่ 3 กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง และส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบบริเวณเกิดเหตุที่วัดไตรภูมิ หมู่ที่ 3 ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ หลังมีคนร้ายลักลอบมาตัดไม้เมื่อกลางดึกของวันที่ 6 พ.ค. 61 โดยคนร้ายได้นำไม้ท่อนใหญ่บรรทุกรถกระบะออกจากวัดไปด้วยความเชี่ยวชาญ โดยพระครูสิริพัฒนนิเทศก์ รองเจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์ และเจ้าอาวาสวัดไตรภูมิ ได้นำพระภิกษุและสามเณรเข้ากั้นพื้นที่ส่วนเกิดเหตุ เพื่ออำนวยความสะดวกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและส่วนงานที่เกี่ยวข้อง โดยว่าที่ร้อยตรีธีระพล โชคนำชัย นายอำเภอสหัสขันธ์ ได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่และส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เร่งออกหาข่าวเพื่อติดตามเส้นทางขบวนการมอดไม้ และดำเนินการสืบสวนทางลับเพื่อสาวให้ถึงขบวนการมอดไม้ที่กล้าเหิมเกริมเข้ามาตัดไม้ถึงในวัด
โดยต้นพะยูงที่ถูกลักลอบตัดครั้งนี้คาดว่าจะมีอายุเกือบ 100 ปี เป็นต้นไม้ที่อยู่คู่กับวัดมาช้านาน อยู่ห่างจากประตูวัดประมาณ 200 เมตร ซึ่งวัดอยู่ติดกับถนนสายหลักที่จะเดินทางไปยังสะพานเทพสุดา ส่วนพื้นที่เกิดเหตุโดยรอบมีรอยเท้าอยู่ทั่วบริเวณ นอกจากนี้ยังพบเงินเหรียญบาทจำนวน 2 เหรียญ ถูกทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ คาดว่าจะเป็นเคล็ดของกลุ่มคนร้ายขณะเดียวกันกิ่งไม้ที่ถูกตัดโค่นยังทำให้หลังคาศาลาพังเสียหายส่วนนึ่ง สายไฟถูกดึงขาด ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่จากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (ขอนแก่น) หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.4 (ภูพระ) จำนวน 6 คน ได้เข้ามาทำการตรวจยึดไม้พะยูงที่คาดว่าคนร้ายไม่สามารถนำเอาไปได้ โดยทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางเป็นไม้พะยูงจำนวน 33 ท่อน ประมาณ 1.8081 ลูกบาศก์เมตร โดยขนย้ายไม้พะยูงจากวัดไปที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.4 (ภูพระ) ซึ่งไม้มีขนาดใหญ่ต้องอาศัยรถยกจากเทศบาล ต.โนนบุรี มาช่วยในการขนย้าย
นายอัมพร อุปชา อายุ 84 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่าโดยต้นไม้พะยูงที่ถูกลักลอบตัดไปครั้งนี้มีขนาด 2 คนโอบ อายุเกือบร้อยปี โดยคนเก่าแก่ในหมู่บ้านระบุว่าต้นพะยูงนี้อยู่มาก่อนที่จะมีการย้ายถิ่นฐานจากบ้านโนนศิลา หรืออำเภอเก่า เพื่อสร้างเขื่อนลำปาว กระทั่งจุดนี้เป็นส่วนหนึ่งของโคกภูสิงห์มีป่าไม้ ต้นไม้ใหญ่อยู่จำนวนมาก จึงได้จัดสรรเป็นพื้นที่วัด ซึ่งเป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว ซึ่งบรรยากาศภายในวัด หลังทราบข่าวชาวบ้านทยอยเข้ามาดูตอไม้ที่เกิดเหตุ และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมประณามแก๊งมอดไม้ที่ กระทำได้แม้ว่าเป็นไม้ที่อยู่ในเขตของวัด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความหวาดกลัวอย่างมาก พราะคนร้ายเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์และลงมือทำแบบมืออาชีพ
“เวลาประมาณตีสอง ได้ยินเสียงโครมดังสนั่น บ้านตนที่อยู่ตรงข้ามกับประตูวัดจึงได้ยินเสียงชัดเจนเดินออกมาดูในระยะไกล เห็นกลุ่มคนกำลังตัดไม้อยู่ในวัด เมื่อตั้งสติได้จึงรีบไปบอกลูกเขยส่วนตนเองก็ซุ่มดูตลอดจนเวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที มีรถสีขาวบรรทุกท่อนไม้วิ่งออกจากประตูไปวัดไปทางสะพานเทพสุดาด้วยความเร็ว จากนั้นไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆ เดินทางเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้ชาวบ้านสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้อย่างมาก เพราะไม้พะยูงต้นนี้ อดีตเจ้าอาวาสที่ละสังขารไปแล้วท่านดูแลไว้เป็นอย่างดี และไม่คิดว่าคนร้ายจะเข้าทำกระทำการอุกอาจและกล้าตัดไม้ในวัดได้” นายอำพร กล่าว
พระครูสิริพัฒนนิเทศก์ กล่าวว่า เหตุการณ์คนร้ายลอบตัดไม้พะยูงภายในวัดไตรภูมิ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่อยู่ในชุมชนชาวบ้านเองก็ขวัญเสียกับเหตุการณ์นี้ สิ่งที่วัดทำได้คือให้ความร่วมมือกับส่วนราชการ เพื่อติดตามคนร้ายให้ได้ในเร็ววัน ส่วนไม้พะยูง ที่ถูกค้นร้ายขโมยไป ให้ยึดเอากฎหมายบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง ซึ่งวัดอยู่ในชุมชนก่อนหน้านั้นทางฝ่ายปกครองโดยนายอำเภอสหัสขันธ์ ได้สั่งการให้มีการจัดเวรยามเฝ้าระวังอยู่โดยตลอด เท่าที่สอบถามพระภิกษุและสามเณรทราบว่า ในวันเกิดเหตุรถตำรวจและกำลัง ชรบ.หมู่บ้านเพิ่งจะออกจากวัดไปตอนเที่ยงคืน
