“บำรุง คะโยธา”หนึ่งในทีมปฏิรูปประเทศไทยเตือนผู้บริหารกาฬสินธุ์ อย่าจัดโชว์ลุงตู่แบบทำผักชีโรยหน้าประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์
บำรุง คะโยธา อนุกรรมการการมีส่วนร่วมเพื่อการปฏิรูปประเทศ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรียกร้องให้ภาครัฐในจังหวัดกาฬสินธุ์ ปฏิบัติอย่างตรงไปตรงมา ชี้นายกฯ “ตู่” ลงพื้นที่เป็นประโยชน์ที่ชาวบ้านจะได้รับสะท้อนปัญหาความยากลำบากในปัจจุบัน แฉเปลี่ยนเส้นจำกัดจำนวนคนชื่นชมนายกฯ แถมงดตรวจเยี่ยมอุโมงค์ผันน้ำ “ลำพะยังภูมิพัฒน์” โครงการพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ผันน้ำลอดภูเขาช่วยเกษตรกร ถือเป็นแก่นและหัวใจเกษตรทฤษฎีใหม่ อ.เขาวง เชื่อกลัวเห็นสภาพทรุดโทรมถูกปล่อยทิ้งร้าง ชาวบ้านขาดโอกาสสัมผัสนายกรัฐมนตรี
ตามที่พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะมีกำหนดการจะลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์เพื่อตรวจเยี่ยมและตรวจราชการ ในวันที่ 13 ธ.ค. นี้ โดยช่วงเช้าจะเดินทางไปยัง บ้านโพน ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งจะมอบเครื่องจักรการเกษตร และมอบโค กระบือ ตามโครงการธนาคารโค-กระบือ ให้แก่เกษตรกร จากนั้นช่วงบ่ายจะเดินทางไปยังต.คุ้มเก่า อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ โดยจะเดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำลำพะยังตอนบน ฝายลำพะยังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และอุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ รวมถึงกิจกรรมการปล่อยพันธุ์ปลาและปลูกต้นพะยอม ดอกไม้ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ และเดินทางไปที่วิทยาลัยเทคนิคเขาวง จ.กาฬสินธุ์ โดยจะเป็นประธานการประชุมยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดกาฬสินธุ์ แต่สำหรับที่บริเวณอุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ ที่จากเดิมมีกำหนดเข้าตรวจเยี่ยม แต่ล่าสุดถูกตัดออกจากโปรแกรมของ ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี จนทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นกับภาคประชาชนเป็นอย่างมาก
ล่าสุด วันที่ 10 ธ.ค. 60 นายบำรุง คะโยธา อนุกรรมการการมีส่วนร่วมเพื่อการปฏิรูปประเทศ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะนำทีมเข้าสำรวจพื้นที่บริเวณ อุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ ต.สงเปลือย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ที่ถือเป็นหัวใจของโครงการพระราชดำริในพื้นที่อ.เขาวง ด้วยพระปรีชาสามารถของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ที่นำน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยไผ่ ลอดผ่านอุโมงค์ผันน้ำใต้เขาภูบักดี ระยะทาง 740 เมตร โดยขนาดอุโมงค์ กว้าง 3 เมตร สูง 3 เมตร มีระบบชลประทานส่งน้ำให้กับเกษตรกรในพื้นที่กว่า 12,000 ไร่ เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 3 เท่า เป็นแห่งเดียวในประเทศที่เกิดขึ้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมราชบพิตร
นายบำรุง คะโยธา กล่าวว่า สภาพพื้นที่ขณะนี้เสมือนถูกปล่อยทิ้งร้างเส้นทางคมนาคมพังเสียหายแต่ไม่ได้รับการซ่อมแซมปรับปรุง ขณะที่บริเวณอุโมงค์ลำพะยังภูมิพัฒน์ ยังไม่มีการปรับปรุงพัฒนา ทั้ง ๆ ที่เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้พื้นที่เป็นประโยชน์ทั้งด้านท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ ขณะที่การเดินเท้าผ่านอุโมงค์ระยะทาง 740 เมตร ลอดใต้ภูเขา เพื่อขึ้นไปสำรวจบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยไผ่ อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร
“สถานที่แห่งนี้คือหัวใจ และเป็นเพียงแห่งเดียวที่เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทย ด้วยน้ำพระทัยของพ่อหลวง แต่ในวันนี้เมื่อเข้ามาดูกลับเศร้าใจยิ่งนัก จนถึงบางอ้อว่าเหตุใดโปรแกรมการลงพื้นที่บริเวณอุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ ของ ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี จึงถูกตัดออกจากโปรแกรม เป็นการเสียโอกาสอย่างมากที่ชาวบ้านจะได้รับจากการเดินทางเข้าพื้นที่ครั้งนี้ เพราะที่แห่งนี้สร้างมาหลายปีชำรุดเสียหายหลายจุด ถ้าหากนายกฯ เข้ามาก็อาจจะมีแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น อาจจะได้งบประมาณ สิบล้าน ร้อยล้านได้ อีกทั้งยังทำให้ชาวบ้านที่ชื่มชมลุงตู่ไม่มีโอกาสได้สัมผัสนายกฯ เพราะมีการกำหนดคนที่จะเข้าไปร่วมงานนี้เท่ากับเป็นการปิดหูปิดตาทีมงานของรัฐบาลทั้งที่ต้องการมาดูความเดือดร้อนของประชาชน
แต่อย่างไรก็ตามในโอกาสนี้ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา อาจจะไม่ได้มาที่บริเวณอุโมงค์ลำพะยังภูมิพัฒน์ แต่เร็ว ๆ นี้ จะนำข้อมูลเท็จจริงทุกอย่าง รวมถึงปากเสียงชาวบ้านไปเล่าให้ท่านนายกรัฐมนตรีฟังที่ทำเนียบรัฐบาล รวมถึงการเข้ามาบริหารจัดการน้ำจากทุกภาคส่วนเพราะตอนนี้มีการเสริมคันคูอ่างเก็บน้ำห้วยไผ่ ทำให้มีความจุเพิ่มขึ้น แต่ข้อมูลทุกอย่างเหมือนถูกผิดไม่ให้ผู้ใหญ่รับรู้ โดยเฉพาะการตัดโปรแกรมของฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมอุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ออก ที่น่าจะมาจากการที่ถูกปล่อยปละละเลยจนรกร้างก็อาจเป็นได้ ทั้งนี้ก็อยากให้ท่านนายกฯ ได้เห็นสภาพพื้นที่จริง ๆ ที่เกิดขึ้นมากกว่าจะเห็นภาพผักชีโรยหน้าเพราะชาวบ้าน นาคู – เขาวง จะได้ประโยชน์มากกว่า
บำรุง คะโยธา กล่าวในที่สุด
