หนองคาย – หนุ่มสกลนคร ขี่รถจักรยานยนต์มาหนองคาย รถน้ำมันหมด เจอรถกระบะของร้านขายกระเบื้องจอดเสียบกุญแจไว้ เลยขับมา ระหว่างทางน้ำมันหมดเอากระเบื้องหลังรถแลกน้ำมันอีก หวังจะขับข้ามไปลาว อ้างไปหาแม่ แต่ไม่รอดถูกจับได้คาด่านสะพาน
เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 22 ก.พ. 63 ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย นายสมบัติ ฆ้อนทอง หัวหน้าฝ่ายควบคุมปราบปราม ศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากร, ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย, ตชด., ตำรวจ สภ.โพนพิสัย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายพงษธร ดีรักษา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 1 ต.ดงหม้อทอง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร พร้อมของกลาง รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมกซ์ สีขาว ตอนเดียว ทะเบียน 1ฒน 7022 กรุงเทพมหานคร
นายสมบัติ ฆ้อนทอง กล่าวว่าเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. นายพงษธร ได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวมายังด่านพรมแดนซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ โดยนายพงษธร จะข้ามไปยัง สปป.ลาว เจ้าหน้าที่ได้ขอดูเอกสารการเดินทาง ทั้งเอกสารออกนอกประเทศ และเอกสารรถยนต์ แต่นายพงษธรไม่มีมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดู โดยเจ้าหน้าที่พยายามอธิบายถึงขั้นตอนการเดินทางที่ถูกกฎหมายต้องมีเอกสารยืนยันทั้งเอกสารตัวบุคคลและเอกสารถ ซึ่งระหว่างนั้นระบบการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ก็พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีการแจ้งหายไว้ที่ สภ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่จึงจะควบคุมตัวนายพงษธรไว้ แต่นายพงษธรพยายามขับรถแหกด่านตรวจ โดยเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ที่ด่านเก็บเงินก่อนออกนอกประเทศของแขวงทางหลวงหนองคาย
จากการสอบถามนายพงษธร ให้การวกวน พูดจาไม่รู้เรื่อง บอกว่า ตนขี่รถจักรยานยนต์มาจาก จ.สกลนคร จะไปหาแม่ที่เวียงจันทน์ สปป.ลาว แต่พอขับมาตามถนนโพนพิสัย – หนองคาย ช่วงหน้าร้านขายกระเบื้อง ในพื้นที่ อ.โพนพิสัย รถจักรยานยนต์น้ำมันหมด จึงได้จอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ แล้วเดินไปยังรถกระบะของร้าน เห็นว่ารถไม่ได้ล็อคและมีกุญแจเสียบไว้ด้วย ตนจึงขับออกมา ระหว่างทางรถยนต์น้ำมันใกล้จะหมดก็ได้นำกระเบื้องที่อยู่หลังกระบะแลกกับน้ำมันเติมใส่รถมา และขับมาเรื่อย ๆ จนมาถึงด่านสะพานช่วงเช้าจึงจะขับรถออกไปยังประเทศลาว
เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจปัสสาวะนายพงษธรพบว่าผลเป็นบวก ซึ่งนายพงษธรก็ให้การรับสารภาพว่าเสพยาบ้ามา 2 เม็ด และเจ้าหน้าที่ยังสืบทราบว่าแม่ของนายพงษธร อยู่ที่ อ.เฝ้าไร่ ไม่ได้อยู่ที่ประเทศลาว ตามที่นายพงษธรอ้าง คาดว่านายพงษธรจะเสพยาบ้าจนหลอน จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งเวลาเกิดเหตุประมาณ 23.00น. วันที่ 21 ก.พ.63 หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.โพนพิสัย ได้ติดตามจับกุมคนร้ายอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นศุลกากรได้แจ้งความผิดตาม พรบ.ศุลกากรในการพยายามลักลอบนำรถที่โจรกรรมมาออกนอกราชอาณาจักร , ทางตรวจคนเข้าเมืองก็จะแจ้งข้อหาตาม พรบ.ตรวจคนเข้าเมือง ในการไม่ผ่านการตรวจอนุญาตของเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่จะเดินทางออกนอกประเทศ และยังต้องถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ของสภ.โพนพิสัยด้วย.
……………………………
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: