หนองคาย – เฉลิม อยู่บำรุง ลงพื้นที่หนองคาย ปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ก้มกราบอ้อนขอคะแนนเสียง มั่นใจแม้ผู้สมัครหน้าใหม่แต่ไฟแรง ได้กระแสพรรคหนุน เชื่อชาวหนองคายเลือกยกเขต เพื่อไทยกวาดเก้าอี้อีสานเรียบ ชูธงแก้ปัญหาความยากจน แก้รัฐธรรมนูญ และยาเสพติด
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 ธ.ค. 61 ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ ริมถนนท่าบ่อ – ศรีเชียงใหม่ เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยจังหวัดหนองคายได้จัดเวทีปราศรัยหาเสียง โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานยุทธศาสตร์ปราศรัยพรรคเพื่อไทย เดินทางลงพื้นที่พบปะประชาชนชาวหนองคายซึ่งวันนี้เป็นการเปิดเวทีของพรรคเพื่อไทยครั้งแรก เป็นการเปิดตัวผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายกฤษดา ตันเทอดทิตย์ , เขต 2 นางชนก จันทาทอง และ เขต 3 นายเอกธนัช อินทร์รอด อดีต ส.ส.หนองคายพรรคเพื่อไทย ซึ่งนายกฤษดา และนางชนก เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ของพรรค โดยมีชาวหนองคายให้ความสนใจมาฟังปราศรัยนับพันคน ร.ต.อ.เฉลิม ใช้เวลาปราศรัย 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางไปยังจุดปราศรัยที่ 2 อ.โพนพิสัย และ ในช่วงบ่ายจุดปราศรัยที่ 3 อ.เมืองหนองคาย ช่วงเย็นจึงเดินทางต่อไป จ.บึงกาฬ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานยุทธศาสตร์ปราศรัยพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่เดินทางเข้าเขตภาคอีสาน ชาวอีสานโดยเฉพาะชาวหนองคายให้การต้อนรับที่อบอุ่น การเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้อยากให้ประชาชนให้โอกาสพรรคเพื่อไทยได้สานงานต่อจากนโยบายที่วางรากฐานไว้ตั้งแต่ครั้งเป็นพรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักไทย จนมาถึงพรรคเพื่อไทย ทั้ง กองทุนหมู่บ้าน, โอท็อป, ทุนการศึกษา 1 อำเภอ 1 ทุนไปเรียนต่างประเทศ หากพรรคเพื่อไทยได้เข้ามาจัดตั้งรัฐบาลสิ่งแรกที่อยากจะเสนอให้ทำคือการแก้ปัญหาความยากจน และการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย พร้อมประกาศสงครามยาเสพติดผู้ค้ารายใหญ่ต้องถูกจับเข้าคุกให้หมด ส่วนผู้เสพต้องได้รับการบำบัดรักษา
สิ่งที่เห็นตลอดที่ผ่านมาของรัฐบาลชุดปัจจุบันคือการบริหารงานไม่เป็น ทำให้ประเทศเป็นหนี้แล้วกว่า 6 ล้านล้านบาท เศรษฐกิจย่ำแย่ ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ไม่เหมือนสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เขียนขึ้นมาไม่มีความเป็นประชาธิปไตย เป็นรัฐธรรมนูญที่ถอยหลังลงคลอง การเปิดให้วุฒิสมาชิกลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีได้เป็นเหมือนการปิดประตูตีแมว ดังนั้นจึงต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นสากลและเป็นประชาธิปไตย
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กล่าวอีกว่า มีโพลสำรวจแล้วพบว่า พรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนเสียง 38.3 เปอร์เซ็นต์, พรรคพลังประชารัฐ ได้ 4.7 เปอร์เซ็นต์ ส่วนพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้แม้เปอร์เซ็นต์เดียว ส่งสารไปถึงนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่จะเดินสายภาคอีสาน อย่ามาเลยเปลืองน้ำมันรถ เพราะยังไม่ชาวบ้านก็ไม่เลือก แต่ถ้ามาแล้วก็ลองมาดู มาเล่นกันตามกติกาประชาธิปไตย มาแข่งกันทำความดี แต่อย่ามาเกเรกัน จะได้รู้ว่าพื้นที่จริงเป็นอย่างไร ตนมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยยังคงขายได้แม้ผู้สมัครบางเขต อย่างเช่นที่หนองคาย จะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ เป็นคนรุ่นใหม่ แต่เป็นคนมีฝีมือ มีความรู้ความสามารถที่จะเป็นกำลังหลักได้อย่างแน่นอน และความเป็นเพื่อไทย หัวใจคือประชาชน ยังคงเหนียวแน่นอยู่กับประชาชนแน่นอน พรรคการเมืองบางพรรคจะไม่ได้คะแนนเสียงชาวอีสานแม้สักคนเดียว ภาคอีสานพรรคเพื่อไทยชนะขาด พรรคอื่นไม่มีสิทธิ
บางช่วงบางตอนที่ปราศรัยหาเสียงนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้พาผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ทั้ง 3 เขต ก้มกราบขอคะแนนเสียงกับประชาชนที่มาฟังปราศรัยด้วยให้พรรคเพื่อไทยกลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง เรียกเสียงฮือฮา เสียงปรบมือเกรียวกราว ร.ต.อ.เฉลิม ยังอ้อนชาวอีสานด้วยว่า อยากจะกราบแทบเท้าชาวอีสาน ขอให้รักพรรคเพื่อไทยมาก ๆ ตนและผู้สมัครพรรคเพื่อไทยรักประชาชนเช่นกัน
หลังจากเสร็จภารกิจปราศรัยที่ จ.หนองคาย แล้ว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะเดินทางไปยัง จ.บึงกาฬ, จ.สกลนคร, จ.นครพนม, จ.ศรีสะเกษ ก่อนกลับกรุงเทพฯ.
……………………….
