เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดงาน “แม่โจ้ชวนยิ้ม ชิมกัญ (ชา)” สาธิตการนำชิ้นส่วนกัญชา ทั้งใบสด ต้น และรากปรุงเมนูอาหารรสเด็ดกว่า 40 ร้านดัง ร้านละ 3 เมนู ให้ชมและชิมฟรีตลอดงาน ต่อยอดงานวิจัยการใช้ประโยชน์ชิ้นส่วนกัญชานอกจากการแพทย์ หวังประเมินผลข้อมูลวางเป็นหลักเกณฑ์วิธีการนำไปใช้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย พร้อมวางเป้าเป็นจุดขายใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่
การจัดกิจกรรมครั้งนี้มหาวิทยาลัยแม่โจ้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ รับผิดชอบดำเนินการ เพื่อเป็นการต่อยอดจากงานวิจัยจากโครงการปลูกและเก็บเกี่ยวกัญชาเพื่อทางการแพทย์ในระบบอินทรีย์ระดับอุตสาหกรรม ที่ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการที่จะนำชิ้นส่วนของกัญชานอกจากช่อดอกมาใช้ประโยชน์และทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ โดยมีโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นต้นแบบในเรื่องการนำมาใช้ปรุงเป็นเมนูอาหาร และได้รับการสนับสนุนจากองค์การอาหารและยา(อย.)ด้วย ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นการทดสอบและทำให้ทราบถึงคุณสมบัติที่ดีของกัญชาในการนำมาใช้ปรุงอาหาร ตลอดจน เป็นการประเมินผลข้อมูลที่นำไปสู่การวางหลักเกณฑ์ ทั้งวิธีการและปริมาณการใช้ที่เหมาะสมเพื่อหน่วยงานรับผิดชอบจะประกาศบังคับใช้เป็นกฎระเบียบตามกฎหมายต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
ทั้งนี้ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการนั้น มีทุกระดับตั้งแต่ร้านอาหารตามสั่งในมหาวิทยาลัยแม่โจ้หรือสตรีทฟู้ดส์ทั่วไป,ร้านอาหารชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ และบริษัทเอกชนผู้ผลิตอาหารเครื่องดื่ม โดยทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้จะสนับสนุนใบกัญชาสดให้ร้านละ 200 กรัม พร้อมปริมาณแนะนำการใช้เป็นส่วนผสมในการปรุงอาหารเฉลี่ยจานละ1ใบ รวมทั้งชิ้นส่วนของต้นและราก อีกจำนวนหนึ่งตามความเหมาะสมและตามสูตรอาหารของแต่ละร้าน เป็นส่วนผสมในการปรุงอาหารและนำเสนอเมนูอาหารอย่างหลากหลายทั้งอาหาร ขนมและเครื่องดื่ม โดยแต่ละร้านทำการปรุงร้านละ3เมนู ให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับชมการปรุงอาหารและชิมฟรีด้วย
ซึ่งการจัดงานครั้งนี้น่าจะถือได้ว่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวด้วย เพราะมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นแหล่งปลูกที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีคุณภาพดีเป็นที่ยอมรับจากผลงานวิจัย ที่พร้อมใช้ชิ้นส่วนของกัญชาสนับสนุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่อีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตามชิ้นส่วนที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้นั้น ต้องนำมาจากแหล่งที่ผู้ปลูกได้รับการอนุญาตให้ปลูกถูกต้องตามกฎหมายด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วยังถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งหากมีการได้มาจากแหล่งที่ถูกต้องตามกฎหมายและถูกต้องตามกระบวนการก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในครัวเรือนได้ เช่น นำไปใช้เป็นส่วนผสมในการปรุงอาหารหรือเครื่องดื่ม เป็นต้น ส่วนในกรณีถ้าหากมีผู้ประกอบการจะนำไปเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม หรือเครื่องสำอาง เพื่อจำหน่ายนั้น จะต้องมีการแจ้งและขอนุญาตกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: