เชียงใหม่ : ตำรวจ ปทส.สนธิกำลัง ตชด.เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ สืบสวนภาค 5 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันกำแพง และเจ้าหน้าที่เทศบาลบวกค้าง ลงพื้นที่ตรวจจับบ่อดินเถื่อนพื้นที่ อ.สันกำแพง หลังชาวบ้านร้องเรียนคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่ามีการลักลอบขุดบ่อดินโดยไม่ได้รับใบอนุญาตมานานกว่า 10 ปี จากการตรวจสอบพบมีการลักลอบขุดบ่อดินในพื้นที่ประมาณ 65 ไร่ มีความลึกไม่ต่ำกว่า 20 เมตร
ร้อยตำรวจเอกจิรัฏฐวัฒน์ กิจรุ่งเรื่องเดช รองสารวัตร.กก.4 บก.ปทส.นำกำลังเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการพิเศษ กก.4 บก.ปทส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจตะเวนชายแดน 33,เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษสืบสวนภาค 5 ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันกำแพง, และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบวกค้าง เข้าตรวจสอบบ่อดินบ้านกอสะเรียม ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ หลังชาวบ้านในพื้นที่ อ.สันกำแพงได้ร้องเรียนคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่ามีนายทุนลักลอบทำบ่อดินเถื่อน ต่อมา พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส.และ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส.ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอกจิรัฏฐวัฒน์ กิจรุ่งเรื่องเดช รองสารวัตร.กก.4 บก.ปทส. ลงพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบ ซึ่ง จากการตรวจสอบพบรถแบคโฮ 2 คันกำลังขุดตักดินใส่รถบรรทุกดินที่รอรับดินเพื่อนำไปส่งขาย เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม เบื้อง้ต้นพื้นที่ดังกล่าวถูกขุดดินลึกกว่า 20 เมตรเมื่อตรวจสอบข้อมูลจากระบบดาวเทียมพบมีการทำบ่อดินถึง 65 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวคนขับรถแบคโฮ 2 คน และคนขับรถบรรทุก 4 คน มาสอบปากคำก่อนจะแจ้งข้อหา ร่วมกันทำการขุดดินโดยมีความลึกจากระดับพื้นดินเกินสามเมตรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และร่วมกัน ตั้งโรงงานจำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ กับคนขับรถบรรทุกและคนขับรถบรรทุกดิน ทั้ง 6 คน
ด้าน รองสารวัตร.กก.4 บก.ปทส.เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกับเทศบาลบวกค้างพบว่า บ่อดินดังกล่าวเป็นของนายทุนรายหนึ่งในพื้นที่ อ.สันกำแพง มีการขุดบ่อดินมานานเกือบ 20 ปีโดยได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ต่อมาเมื่อปี 2555 ต่อมาจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศผังเมืองให้ทั่วจังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้พื้นที่ ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง ไม่สามารถประกอบกิจการอุตสาหกรรมบางประเภทได้ ทำให้บ่อดินแห่งนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกอจกรารได้ แต่เจ้าของบ่อดินกลับดำเนินกิจการเรื่อยมานานกว่า 10 ปี ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า บ่อดินแห่งนี้เป็นของนายอารีย์ฯ โดยได้กว้านซื้อที่นาของชาวบ้านในพื้นที่ ลักษณะไม่มีการโอนที่ดินเพื่อป้องกันการการถูกดำเนินคดีเนื่องจากขุดบ่อดินโดยไม้ได้รับอนุญาต ซึ่งหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง จะได้เรียกตัวเจ้าของที่มารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันทำการขุดดินโดยมีความลึกจากระดับพื้นดินเกินสามเมตรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และร่วมกัน ตั้งโรงงานจำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และการกระทำความผิด ตามมาตรา 37 แห่งประมวลรัษฎากร หรือเลี่ยงภาษีเพิ่มเติมอีกกระทง
นายต่อพงศ์ พิมพิสาร นิติกรชำนาญการ สำนักปลัดเทศบาลตำบลบวกค้าง เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่ทางเทศบาล ต.บวกค้าง ได้ตรวจสอบพื้นที่บ่อดินบริเวณดังกล่าว หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่ทำการเกษตรรอบบ่อดินได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการบ่อดิน ทั้งเรื่องน้ำจากลำเหมืองที่ไหลลงสู่บ่อดินทำให้เกษตรกรไม่สามารถเพาะปลูกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าลำเมืองสาธารณะ ได้หายไปกับบ่อดินรวม 2 สาย เนื่องจากเจ้าของได้กว้านซื้อที่นาของชาวบ้านคร่อมลำเหมืองสาธารณะและทำการขุดดินขายจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ตลอดระยะเวลานานกว่า 10 ปี ที่ผ่านมา นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบพื้นที่ดังกล่าวถูกขุดบ่อดินเป็นวงกว้าง 85,715 ตารางเมตร ความลึกประมาณ 20 เมตร ดินที่ถูกขุดออกไปมากถึง 1,714,317 ลูกบาศก์เมตร
