เชียงใหม่ : นายฌอน เค.โอนีลล์ กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ ได้แถลงข่าว เกี่ยวกับประวัติและการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ รวมถึงการให้บริการพลเมืองชาวอเมริกัน การให้บริการด้านวีซ่าแก่ชาวไทย ความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมาย ฯลฯ รวมไปถึงความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารสถานกงสุลใหญ่เชียงใหม่แห่งใหม่ โดยมีนายไมเคิล โกรอาร์ค ร่วมให้ข้อมูลในฐานะหัวหน้าและผู้รับผิดชอบโครงการก่อสร้างสถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่
สถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ จะย้ายที่ทำการแห่งใหม่ อยู่ที่ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง มูลค่าลงทุนก่อสร้าง 284 ล้านเหรียญสหรัฐ การก่อสร้างสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ สร้างรายได้ให้ท้องถิ่นเพราะมีการใช้แรงงานในพื้นที่กว่า 400 คนในการก่อสร้าง
การสร้างสถานกงสุล ไม่ใช่การลงทุนที่สหรัฐฯ เพื่อเพิ่มอำนาจในภูมิภาคนี้ตามที่มีข่าวลือออกมา ไม่มีการสะสมอาวุธ และการสร้างลานจอดเฮลิคอปเตอร์ที่นี่ แต่เป็นการพัฒนาการให้บริการและพื้นที่รับรองผู้ที่มาติดต่อราชการ ตลอดเวลาที่ผ่านมาสถานกงสุลฯ แห่งปัจจุบันให้บริการทั้งชาวไทยและชาวสหรัฐไปแล้วกว่า 12 ล้านคน
สถานกงสุลสหรัฐฯ เปิดทำการคู่กับจังหวัดเชียงใหม่มาแล้ว 72 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมาเชียงใหม่และสหรัฐมีความร่วมมือที่ดีมาโดยตลอดและในทุกด้าน ในปีที่ผ่านมา ได้ให้ความร่วมมือกับทางจังหวัดเชียงใหม่ ด้านปัญหาสิ่งแวดล้อม การแก้ไขหมอกควันและไฟป่า ทางสหรัฐฯบริจาคเงิน 1 แสนเหรียญสหรัฐ อลัให้ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยี ให้ทางการไทยสามารถเข้าถึงระบบภาพถ่ายทางดาวเทียมของสหรัฐฯ ที่มีความทันสมัยเพื่อให้การเข้าดับไฟหรือแก้ไขปัญหามีความแม่นยำมากที่สุด มีการบริจาคเครื่องฟอกอากาศให้กับสถานศึกษาหลายแห่ง เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนให้มีอากาศสะอาดหายใจในช่วงที่มีปัญหาหมอกควันไฟป่า
ขณะที่ด้านสาธารณสุข ทางสหรัฐฯมีความร่วมมือกับทางการไทยในหลายเรื่อง อย่างในอดีตถึงปัจจุบัน สหรัฐฯได้ช่วยเหลือไทยในหลายเรื่อง โดยเฉพาะล่าสุด การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สหรัฐฯได้บริจาควัคซีนให้กับประเทศไทยไปแล้วจำนวน 2.5 ล้านโดส และจะมีความร่วมมืออย่างต่อเนื่องในการช่วยเหลือประเทศไทยต่อสู้กับโควิด-19
สถานกงสุลฯแห่งใหม่ เป็นอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การออกแบบจะมีความเป็นล้านนาเชียงใหม่ มีการนำเทคโนโลยีในการประหยัดพลังงานที่ทันสมัยมาใช้ รวมถึงระบบบำบัดน้ำเสียที่จะนำน้ำหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ ให้ความมั่นใจว่าสถานกงสุลฯแห่งใหม่ จะไม่ปล่อยน้ำเสียออกสู่ชุมชนโดยรอบ และสุดท้ายยืนยันว่าสถานกงสุลฯแห่งใหม่ ไม่ใช่สถานที่เก็บอาวุธหรือยุทโธปกรณ์ทางทหารของกองทัพสหรัฐฯ ตามที่มีการปล่อยข่าวลือออกมา
