เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายสนธิกำลังบุกตรวจยึดไม้พะยูง ประดู่ และไม้ชิงชัน จำนวนมากมูลค่าหลายสิบล้านบาท ในโกดังโรงไม้แห่งหนึ่ง อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท
วันที่ 6 มิ.ย. 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยงู อ.หันคา จ.ชัยนาท ฝ่ายปกครองอำเภอหันคา เจ้าหน้าที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจค้นโรงเก็บไม้ญาณิการ์ เลขที่ 29 หมู่ 20 ตำบลหนองแซง อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท หลังสืบทราบว่ามีขบวนการลักลอบนำไม้ผิดกฎหมายมาเก็บไว้ก่อนส่งต่อไปประเทศที่ 3
จากการตรวจค้นพบไม้หวงห้ามที่แปรรูปเป็นท่อนแล้วทั้งไม้ชิงชัน และไม้ประดู่ รวม 696 ท่อน และยังพบไม้พะยูงที่ยังไม่ได้แปรรูปอีกจำนวน 167 ท่อน รวมของกลางจำนวน 863 ท่อน และยังมีไม้ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบอีกจำนวนมากพร้อมจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 4 คน ได้แก่ 1.นายสมนึก พรมชาติ อายุ 48 ปี 2.นายบุญเกิด แซ่อั้ง อายุ 30 ปี 3.นายพรศักดิ์ ไตรพรม อายุ 31 ปี ทั้ง 3 คนเปป็นชาวจังหวัดสระบุรี และ นางสาวศศิธร แก่นจันทร์ อายุ 52 ปี เจ้าของโรงไม้
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ทราบว่า เป็นคนขับรถรับจ้างขนไม้มาจาก จ.สระบุรี มีนายบอล (ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุล) เป็นผู้ว่าจ้าง โดยให้ขนไม้เข้ามาเก็บไว้ในโกดังเก็บไม้ดังกล่าวได้ค่าจ้างเที่ยวละ 500 บาท โดยที่ไม่รู้ว่าไม้ทั้งหมดนี้จะส่งต่อไปให้ใคร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะยึดไม้ของกลางทั้งหมดไปตรวจสอบ และให้ทางนางสาวศศิธร แก่นจันทร์ เจ้าของโรงเก็บไม้ นำเอกสารไปชี้แจ้งว่า ครอบครองอย่างถูกต้องหรือไม่ แต่จากการตรวจสอบไม้ทั้งหมดนั้น ยังไม่มีการตีตราของทางราชการถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด
นายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร์ ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านป้องกัน และปราบปราม กรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดเผยว่า เฝ้าติดตามขบวนการค้าไม้หวงห้ามข้ามชาติมานานกว่า 3 เดือน พบว่ามีการขนย้ายไม้มาจากภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก่อนจะมาพักไว้ในพื้นที่ภาคกลาง ชุดปฏิบัติการจึงเฝ้าสังเกตการณ์โกดังแห่งนี้มาประมาน 1 สัปดาห์ และพบว่า เมื่อวานที่ผ่านมามีรถเทเลอร์ขนาดใหญ่ขับเข้ามาในโกดัง ก่อนจะให้คนขนไม้ทั้งหมดมาเก็บไว้ ส่วนไม้หวงห้ามที่ตรวจสอบพบว่ามาจากจังหวัดนครพนม ซุกซ่อนอยู่รวมกับไม้ชนิดอื่น เพื่อรอส่งต่อไปยังอีกโรงงานหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการที่เคยถูกจับกุมไปแล้ว
พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์ประสานการปฏิบัติการที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เปิดเผยว่า ได้มีการติดตามเรื่องนี้มานานแล้ว ขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ ไม้ที่พบครั้งนี้มาจากหลายแหล่ง ในส่วนของไม้ชิงชัน และไม้ประดู่ ส่วนใหญ่มาจากทางภาคเหนือ ทั้งจังหวัดแพร่ น่าน ลำปาง และอุตรดิตถ์ มีการลำเลียงลงมา ในส่วนของทางภาคอีสาน จะเป็นไม้พะยูง และอีกส่วนหนึ่งจากภาคตะวันตก ทางอุทัยธานี และกาญจนบุรี มารวมกันด้วย จุดนี้จึงเป็นจุดรวมไม้จุดใหญ่ ในส่วนที่เจ้าของไม้อ้างว่าเป็นไม้ที่อยู่ในที่ดินกรรมสิทธิ์ จะต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง โดยเฉพาะไม้ประดู่ หากมีหลักฐานถูกต้องก็ไม่มีปัญหา สำหรับไม้ที่แปรรูปแล้วพร้อมส่งออกมีมูลค่านับสิบล้านบาท ส่วนไม้พะยูงเกือบ 200 ท่อน อยู่ระหว่างตรวจสอบหากไม่มีหลักฐานที่ถูกต้อง จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านนายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า หลังจากนี้จังหวัดจะจัดชุดเจ้าหน้าที่ออกตรวจ โรงไม้แต่ละแห่งที่มีการเก็บไม้ ว่ามีไม้ที่ผิดกฎหมายหรือไม่ ส่วนที่จุดนี้เจ้าหน้าที่จะต้องทำการอายัด และตรวจสอบที่มาที่ไป ซึ่งไม้บางประเภทเป็นไม้หวงห้าม ซึ่งมีไว้ครอบครองไม่ได้ จะต้องมีการขยายผลที่มาที่ไปเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: