ท้อแต่ไม่ถอย หนุ่มใหญ่วัย55ปี เคยคิดจบปัญหาชีวิตตัวเองผันตัวมาประกอบอาชีพตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยการเลี้ยงนกกระทา สร้างรายได้อย่างงามเลี้ยงครอบครัว
นายอารมย์ เสนเลี้ยง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203 หมู่ 3 ต.ห้ วยกรดพัฒนา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท จากอาชีพทำนาที่ไม่ประสบความสำเร็จ ขาดทุนจนสิ้นเนื้อประดาตัวหมดหวัง ไม่รู้จะทำอะไร ไร้ที่พึ่งจนเคยคิดฆ่าตัวตาย โชคดีที่ปศุสัตว์อำเภอได้เข้าไปแนะนำและช่วยเหลือในการประกอบอาชีพตามแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจนสามารถเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านปศุสัตว์
นายอารมย์ เสนเลี้ยง กล่าวว่า เดิมทำนา แต่ขาดทุน ขายข้าวได้มาไม่พอใช้จ่าย ค่าปุ๋ย ค่ายา ประกอบกับเป็นคนที่ใช้เงินฟุ้งเฟ้อ ชอบเที่ยว ดื่มเหล้า จนหมดตัว ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว คิดจะฆ่าตัวตาย ต่อมามีทางปศุสัตว์อำเภอ และปศุสัตว์จังหวัดชัยนาท เข้ามาเยี่ยมและแนะนำให้ทำเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยที่ตนเองมีความถนัดเรื่องของการเลี้ยงสัตว์อยู่แล้ว พอดีมีหน่วยงานมาช่วยเหลือ เริ่มต้นด้วยการปลูกผัก เลี้ยงปลา ปศุสัตว์แนะนำให้เลี้ยงนกกะทา ช่วงแรกเลี้ยง 300 ตัว มีตัวผู้ติดมาด้วย จึงทำการฟักไข่เพาะลูกนกกะทาเอง โดยใช้ตู้เย็นเก่ามาทำตู้ฟักไข่นก สามารถเพาะลูกนกได้ประมาณ 600-700 ตัว/เดือน และสามารถขายไข่นกกะทาใบละ 0.80 บาท ลูกนกตัวละ 10-15 บาท นกสาวตัวละ 25 บาท นกตัวผู้ 15 บาท ทำขายตัวละ 25 บาท ทำให้มีรายได้ประมาณ 1,000-2,000 บาท/วัน ช่วงระยะเวลาเพียง 1 ปี รายได้จากนกกะทา สามารถซื้อวัวมาเลี้ยงได้ ขณะนี้มีวัว 11 ตัว แพะ 19 ตัวสำหรับพื้นที่ที่เคยทำนาได้ปรับเปลี่ยนมาปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตามนโยบายลดพื้นที่ทำนา ซึ่งหลังจากปรับเปลี่ยนอาชีพจากการทำนามาเลี้ยงสัตว์แล้วทำให้ชีวิตดีขึ้นมาก เพราะเราสามารถตั้งราคาเองได้ ขณะนี้ความเป็นอยู่ดีขึ้น มีความสุข และสบายใจได้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก และได้เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านปศุสัตว์ด้วย ผู้สนใจติดต่อเข้าศึกษาดูงานได้ที่ นายพยับ บุญปลูก ปศุสัตว์อำเภอสรรคบุรี โทรศัพท์ 081-962-6609
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: