ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “วัลลภ ธรรมสนธิเจริญ” โพสต์ข้อความว่า ลูกผมโดนคุนครูลงโทษขนาดนี้เลยหรอคับแถมไม่เคยถามลูกผมว่าเจ็บไหมไปรักษาที่ไหนหรือยัง ใจร้ายจริงๆสงสารลูกมากๆคับ เด็กอนุบาล2ทำไมต้องมาเจอเรื่องโชคร้ายแบบนี้ด้วยคับ” พร้อมภาพประกอบ เป็นรูปใบหูทั้ง 2 ข้าง เป็นแผลยาวลักษณะแผลถูกบิดและจิก จนมีการแชร์ไปอย่างแพร่หลายนั้นจากนั้น ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 8 ม.4 ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท พบนายวัลลภ ธรรมสนธิเจริญ อายุ 29 ปี และด.ญ.เอ(นามสมมุติ)อายุ 4 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนวรรณรัตน์วิทยา กำลังนั่งเช็ดล้างบาดแผลที่หูให้น้องเกลอยู่ เนื่องจากแผลดังกล่าวนั้น เป็นแผลที่ถูก นส.นันทินี หมั่นเขตกิจ หรือครูกล้วย ครูประจำชั้นของน้องเอ(นามสมมุติ) บิดหูทั้ง 2 ข้างจนเป็นแผลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางบรรดาญาติๆ ที่ไม่พอใจกับการกระทำของครูหวังเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เบื้องต้นได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาทและได้พาน้องเอ(นามสมมุติ) ไปทำการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทรไว้แล้วด้านนายวัลลภ ธรรมสนธิเจริญ พ่อน้องเอ(นามสมมุติ) เปิดเผยว่า เมื่อเย็นของวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมาตนได้รับลูกที่โรงเรียนกลับบ้าน สังเกตเห็นลูกมีอาการซึมๆ ทีแรกไม่คิดว่าจะมีอะไรรุนแรงกับลูก ต่อมาเช้าวันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม แม่เขาอาบน้ำให้ลูก ลูกมีอาการงอแงไม่อยากไปโรงเรียน ช่วงที่แม่เขาถอดเสื้อให้ลูกเสื้อไปถูกที่ใบหูลูกร้องไห้อย่างดัง จึงถามลูกว่าร้องไห้ทำไม ทำไมไม่อยากไปโรงเรียน จากนั้นได้ทำการมัดผมให้ลูก จึงพบว่ามีบาดแผลที่ใบหูของลูกเยอะมากที่ใบหูทั้ง 2 ข้าง ลักษณะห้อเลือดและช้ำ ทีแรกคิดว่าลูกเล่นกับเพื่อนๆแต่เห็นเป็นรอยเล็บใหญ่มีรอยจิก ลักษณะลูกไม่มีทางสู้ไม่น่าจะใช่เด็กเล่นกัน รู้สึกติดใจจึงเข้าไปหาครูที่โรงเรียน เขาเดินเข้ามาหาแล้วทำหน้าตกใจ ตนยังไม่ได้ถามอะไรเขาดิ่งไปดูที่หูของลูกทันที จึงทำให้รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูก จึงถามเขาว่าครูบิดหูลูกผมจริงไหมครับ ซึ่งเขาก็ยอมารับ แต่เกิดบาดแผลรุนแรงนั้นไม่น่าใจใช่ แล้วตนถามไปว่าแล้วรอยเล็บล่ะ ครูตอบว่ารอยเล็บก็จะมีบ้าง จากนั้นเขาได้กล่าวขอโทษ และขอให้ลูกเรียนที่นี่ต่อ ต่อสภาพจิตใจตนไม่อยากให้ลูกเรียนที่นี่อีกแล้วนายวัลลภ ธรรมสนธิเจริญ พ่อน้องเอ(นามสมมุติ) กล่าวต่ออีกว่า จากเหตุการณ์วันนั้นได้ติดต่อเพื่อขอคุยกับ ผอ.โรงเรียนเป็นการส่วนตัว โดย ผอ.ได้เสนอให้ 2 ช่องทางคือ ให้เด็กย้ายห้องเรียน ข้อเสนอนี้ตนไม่ยอมรับเพราะไม่อยากให้ลูกไปเรียนที่นี่อีกแล้ว แม้โรงเรียนนี้จะสอนดีก็จริง แต่เพื่อความปลอดภัยของลูก เขาได้เสนออีกทางคือ ให้ลูกลาออกจากโรงเรียน โดย ผอ.ให้มาลาออกในวันจันทร์นี้ได้เลย แต่ทางโรงเรียนไม่มีนโยบายช่วยเหลือเยียวยาอะไรเลยหลังจากเกิดเหตุการณ์กับเด็ก การที่ตนตัดสินใจนำเรื่องราวลงเฟสบุ๊คเพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์กับคนอื่นๆอีก อยากให้เกิดกับลูกตนเป็นครั้งสุดท้าย และทำให้รู้ว่าครูคนดังกล่าวที่ทำร้ายลูก เคยตีเด็กจนเป็นไข้มาแล้วด้านนายคมคาย น้อยเอี่ยม ผู้อำนวยการโรงเรียนวรรณรัตน์วิทยา เผยว่า ตนได้ว่าเกิดเหตุเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และผู้ปกครองได้ประสานให้ไปพบที่บ้าน ตนได้เดินทางไปพบผู้ปกครองที่บ้าน ซึ่งเดิมได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไร ต่อมาเมื่อวานนี้ผู้ปกครองเด็กบอกว่าจะแจ้งความ ตนบอกว่าแจ้งได้เลย ซึ่งการกระทำของครูนั้นอาจจะลืมตัว ทางโรงเรียนได้ปฏิบัติตามระเบียบของโรงเรียน จึงให้ทางผู้ช่วยผู้อำนวยการดำเนินการสอบสวน และครูได้สารภาพกับทางโรงเรียน จึงได้บันทึกทำทัณฑ์บน หากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกจะดำเนินการให้ลาออกทันที
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
- วิกฤตพะยูนตรัง 7 วันสำรวจ พบแค่ตัวเดียว ทดลองวางแปลงอาหาร กลับถูกเมินไม่ยอมกิน
- คึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย-ต่างชาติ แห่เที่ยวจับจ่ายหาของกินคาวหวาน-อาหารทะเลในงาน ‘หาดแม่รำพึง หร่อยริมเล’ ครั้งที่ 2 แน่นงาน
- นครพนม : กองทัพบก ร่วมกับ Kubota มอบไออุ่นในพื้นที่ภาคอีสาน มอบเสื้อกันหนาวให้ชาวนครพนม ตามโครงการ "คูโบต้า พลังใจ สู้ภัยหนาว" ปี 2567
- ป้ายรับซื้อบ้านผีสิง คิดว่าคอนเทนต์ เจ้าของป้ายเผยรับซื้อจริง บ้านเก่า บ้านมีประวัติลี้ลับมารีโนเวทขาย
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: