นางสาวศรุดา นรสิงห์ พาณิชจังหวัดชัยนาท พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านจำหน่ายไข่ไก่ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท หลังมีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินโควิด-19 แล้วส่งผลราคาไข่ไก่ถีบตัวสูงขึ้น ถึงแผงละ 130-150 บาท จากการตรวจสอบพบการติดป้ายราคา ไข่ไก่ต่อแผง เบอร์ 0 ราคา 150 บาท เบอร์ 1 ราคา 145 บาท เบอร์ 2 ราคา 130
จังหวัดชัยนาทมีประชาชนประมาณ 320,000 คน การบริโภคประมาณ 300,000 ฟองต่อวัน ซึ่งชัยนาทมีฟาร์มไข่ไก่ในพื้นที่เพียง 1 แห่ง มีปริมาณไข่ไก่ออกสู่ตลาดประมาณ 5,000 ถึง 7,000 ฟองต่อวันปกติจำหน่ายให้กับผู้ค้าปลีกรายย่อยที่ขายตามตลาดนัด ส่วนใหญ่ไข่ไก่จะนำเข้ามาจากต่างจังหวัด ประกอบด้วย สระบุรี ลพบุรี และนครสวรรค์ โดยมีพ่อค้าส่งกระจายให้กับพ่อค้าปลีกในพื้นที่
ปัจจุบันพบว่าปริมาณไข่ไก่เข้าสู่ตลาดลดลง มีจำหน่ายในบางร้านค้า ราคาขยับตัวสูงขึ้นเนื่องจากสาเหตุที่อากาศร้อนไข่ไก่ลดลง ประกอบกับในช่วงก่อนที่จะมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 โดยที่ประชาชนมีความกังวล จึงมีการซื้อเก็บไว้ในปริมาณมากกว่าปกติถึง 5 เท่าทำให้พ่อค้าบางรายอาจฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าไข่ไก่ ทั้งที่สมาคมผู้ผลิตผู้ค้า และผู้ส่งออกไข่ไก่ยืนยันราคา ณ หน้าฟาร์มเกษตรกรเท่าเดิม ล่าสุด ราคา ณ วันที่ 24 มีนาคม 2563 ไข่ไก่คละอยู่ที่ฟองละ 2.80 สตางค์
นางสาวศรุดา นรสิงห์ พาณิชจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า เมื่อมาดูแล้วพบว่าผู้ค้าในจังหวัดชัยนาทเป็นผู้ค้าปลีกรายย่อย ที่ไปรับไข่ไก่มาจากที่อื่น แล้วนำมาขาย ซึ่งราคาที่เขาขาย ทุกร้านติดป้ายแสดงราคาถูกต้อง แต่ว่าราคาจะดูว่าสูง เราต้องสอบย้อนกลับไปว่าราคาที่เขารับมาเป็นราคาเท่าไร ราคาที่เขาจำหน่ายมันสมควรหรือไม่ อย่างกรณีแบบนี้ เรามาแล้วเขาแจ้งว่าเขารับมาในราคา 140 บาท เขาขายในราคา 150 บาท ซึ่งเราจะดูว่าผู้ค้ารายย่อยเขามีต้นทุนเท่าไรและราคาปัจจุบันเท่าไร เราขอเตือนผู้ประกอบการว่า อันดับแรกต้องติดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน เพราะเป็นกฎหมายของคณะกรรมการกลาง ซึ่งมีโทษตามมาตรา 40 ปรับ 10,000 บาท ขณะเดียวกันถ้าไม่สามารถชี้แจงเราได้ว่าต้นทุนคุณซื้อจริงมาเท่าไรจะมองว่าเป็นการค้ากำไรเกินควร ก็จะมีโทษหนักขึ้น เป็นจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท ซึ่งจะเป็นอีกเคสหนึ่งเราไม่อยากจะทำถึงขนาดนั้น ฉะนั้นผู้ประกอบการต้องระมัดระวัง ต้องดูว่าราคาที่ขายสมเหตุสมผลหรือไม่
