จากกรณีที่นางมะลิ เณรแขก อายุ 56 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ที่ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ วอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ หลังจากมีหนังสือจากเทศบาลตำบลสรรคบุรี ขอเรียกคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุย้อนหลังไปเป็นเวลา 10 ปี ที่จ่ายให้กับนางชู เณรแขก อายุ 96 ปี ซึ่งเป็นมารดา ที่เสียชีวิตไปแล้วเป็นเงินกว่า 1 แสนบาท
ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 ม.ค. 64 ผู้สื่อข่าว เดินทางไปยังเทศบาลตำบลสรรคบุรี พบกับ นายอิสรีย์ ธัมมะจริยา หัวหน้าสำนักปลัด เทศบาลตำบลสรรคบุรี โดยเปิดเผยว่า กรณีของ ยายชู เณรแขก ได้มาทำการขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุเมื่อปี 2553 สมัยนั้นมีนโยบายจ่ายให้ผู้สูงอายุทุกคน คือผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป จ่ายเป็นขั้นบันไดตามอายุ เท่าที่ได้คุยกับนางมะลิ (ลูกสาว) แล้วทราบว่าได้รับความลำบาก เดือดร้อนจริง ถ้าเป็นผมเอง ผมอยากช่วย ถ้ามีอำนาจอยากแก้ไขระเบียบนี้ เพราะผู้สูงอายุรายนี้ได้เสียชีวิตแล้ว แต่เนื่องจากมีหนังสือจากกรมบัญชีกลาง ส่งมายังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น แล้วได้สั่งการลงมา เราจำเป็นต้องทำเรื่องเรียกเงินคืนตามขั้นตอน หลักเกณฑ์ ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ ซึ่งได้มีการชำระมาบ้างแล้ว สาเหตุที่ครอบครัวนี้ไม่ยืนยันว่าได้รับบำนาญของลูกชาย ที่เป็นทหารอากาศและได้เสียชีวิตเมื่อปี 2526 อาจเนื่องมาจากความเข้าใจผิด คิดว่าเป็นเงินของลูก
อย่างไรก็ตาม ได้มีการกำหนดให้จ่ายเดือนละ 1,000 บาท ไม่มีดอกเบี้ย โดยคำนวณขั้นต่ำสุดจากเงินที่รับไป เป็นเวลา 102 เดือน ประมาณ 8 ปี อย่างผมเป็นหน่วยงานที่อยู่กับชาวบ้านโดยตรง รู้ปัญหาในพื้นที่แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าเราไม่ทำตามระเบียบ กฎหมายที่กำหนด จะต้องโดนโทษทางวินัยที่รุนแรง จากเหตุการณ์นี้ ถ้าผู้มีอำนาจมีแนวทางให้ชัดเจน คิดถึงมนุษยธรรม ก็จะดีเพราะไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนคิดจะไปเรียกคืนเงินชาวบ้าน เพราะเขาอยู่กับชาวบ้าน เขารู้ปัญหาของชาวบ้านเป็นอย่างดี
