ครั้งแรก สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจับมือกระทรวงพาณิชย์-เกษตรจัดประกวดข้าวพันธุ์ใหม่เฟ้นหาสุดยอดพันธุ์ข้าวที่ตอบโจทย์ตลาดนานาชาติเพื่อครองความเป็นผู้นำข้าวโลกอย่างยั่งยืน
วันนี้ 5 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์วิจัยข้าวชัยนาท อ.เมือง จ.ชัยนาท นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดโครงการประกวดข้าวพันธุ์ใหม่เพื่อการพาณิชย์ ภายใต้ยุทธศาสตร์ข้าวไทย แบบไฮบริด โดยสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดขึ้นเป็นครั้งแรก และมีเป้าหมายที่จะจัดต่อเนื่องไปทุกปี โดยงานในวันนี้ มีผู้บริหารระดับสูงจากทั้งสองกระทรวง คณะกรรมการสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย นักวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าว ผู้ประกอบการค้าข้าว เกษตรกรชาวนา พร้อมคณะทูตพาณิชย์จาก 25 ประเทศ และพาณิชย์จังหวัดใน 27 แห่ง เข้าร่วมกิจกรรมผ่านระบบออนไลน์ โดยก่อนทำพิธีเปิดงาน นายจุรินทร์และผู้บริหารสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยมอบวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในอำเภอเมืองชัยนาท 12 แห่ง มูลค่า 5 แสนบาท
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้แสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อการขับเคลื่อนนโยบายภายใต้ยุทธศาสตร์ข้าวไทย โดยระบุว่า ยุทธศาสตร์ข้าวไทยเริ่มต้นเมื่อปี 2563 ตนเป็นประธานอนุกรรมการดำเนินงาน ได้ผ่าน ครม.และมีผลบังคับใช้แล้ว เรามุ่งเน้นในการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตข้าว และการตลาดข้าว และผลิตภัณฑ์จากข้าวที่มีคุณภาพของโลกโดยใช้ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต เป้าหมายที่เป็นรูปธรรมที่สุดคือ 1.) ภายใน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2563-2567 จะลดต้นทุนการผลิตจากไร่ละ 6,000 บาทโดยเฉลี่ย ให้เหลือไร่ละ ไม่เกิน 3,000 บาท 2.) จะเพิ่มผลผลิตต่อไร่จากปัจจุบันเฉลี่ยไร่ละ 465 กิโลกรัม ให้เป็น 600 กิโลกรัมต่อไร่ ให้ได้ภายใน 5 ปี 3.) ทำการเพิ่มข้าวพันธุ์ใหม่ให้ได้ใน 5 ปี อย่างน้อย 12 พันธุ์ ประกอบด้วย ข้าวพื้นนุ่ม 4 ข้าวพื้นแข็ง 4 ข้าวหอม 2 และข้าวโภชนาการสูง 2 รวมเป็น 12 พันธุ์ การประกวดพันธุ์ข้าวครั้งนี้ ถ้าประสบความสำเร็จ จะเป็นการเพิ่มข้าวพันธุ์ใหม่ให้ครบ 12 พันธุ์ครบถ้วนตามยุทธศาสตร์ข้าว
การประกวดข้าวพันธุ์ใหม่ การส่งเข้าประกวดถึง 48 พันธุ์ และจะมีการตัดสินการประกวดในเดือนธันวาคมนี้ หากข้าวพันธุ์ไหนที่ชนะการประกวด เป็นข้าวพันธุ์ใหม่ที่มีคุณภาพ ต่อไปในอนาคตที่จะป้อนตลาดโลกได้ ถือว่าเป็นข้าวพันธุ์ใหม่ของประเทศไทย และจะนำไปให้เกษตรกรปลูกและจำหน่ายนำรายได้เข้าประเทศ เกษตรกรจะมีรายได้มากขึ้น ปัจจุบันนี้เราพัฒนาพันธุ์ไปได้ระดับหนึ่งแต่ว่าข้าวพันธุ์ใหม่ๆที่จะป้อนตลาดโลกยังมีจำกัด ฉะนั้นทำให้เราแข่งกับคู่แข่งไม่ได้ ที่เขาปรับปรุงพันธุ์ พัฒนาพันธุ์ มีข้าวพันธุ์ใหม่ออกตลาดได้มากกว่าเรา และความต้องการตลาดโลกมีความหลากหลายขึ้น รวมทั้งต้องการข้าวพันธุ์พื้นนุ่มมากขึ้น ซึ่งเราสนองตลาดไม่ทัน การประกวดข้าวพันธุ์ใหม่ครั้งนี้ถ้าเราได้ข้าวพันธุ์นุ่มตรงกับความต้องการตลาดมากขึ้น เราจะมีข้าวไปขายแข่งตลาดโลกได้มากขึ้น นำรายได้เข้าประเทศมาขึ้น ชาวนาก็มีรายได้มากขึ้นไปด้วย
