จากสภาวะเศรษฐกิจราคาสินค้าขยับตัวสูงขึ้นเกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะราคาปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง แต่ราคาข้าวเปลือกไม่ขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้นทำนาขายข้าวแทบไม่เหลือกำไร ทำให้ชาวนาอยู่ยาก ต้องดิ้นรนหาทางออกเพื่อลดต้นทุน ชาวนาหมู่ 3 บ้านบางไก่เถื่อน ตำบลตลุก อำเภอสรรพยา รวมตัวตั้งกลุ่มผลิตปุ๋ยและสารไล่แมลงใช้เอง ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้
นายชยัน พิทักษ์พูลศิลป์ ประธานศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนบ้านบางไก่เถื่อน เปิดเผยว่า ก่อนที่จะใช้ปุ๋ยสั่งตัด หรือปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ต้นทุนการทำนาอยู่ที่ตันละ 5,000 บาท เนื่องจากต้องซื้อทั้งปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลง โดยเฉพาะปุ๋ยเคมีใช้ไร่ละ 1 กระสอบ (50กก.) หลังจากได้มีการตั้งกลุ่มและทำปุ๋ยน้ำหมักใช้เอง เช่น ปุ๋ยยูเรียน้ำจากถั่วเหลือง+น้ำตาลทรายแดง น้ำหมักมูลค้างคาว+กากน้ำตาล และจุลินทรีย์อีก 3 ชนิด ทำให้สามารถลดปุ๋ยเคมีลงจากเดิมที่ใช้ปุ๋ยเคมี 1 กระสอบต่อไร่ หรือ 50 กก. ลดลงมาเหลือไร่ละ 30 กก.ต่อไร่ ส่วนยาฆ่าแมลงที่เคยซื้อก็เปลี่ยนมาทำสารชีวภัณฑ์ไล่แมลงใช้เอง เช่น บิวเวอร์เรีย เมธาไรเซียม และไตรโคเดอร์มา เพื่อลดการซื้อสารเคมีฆ่าแมลง ทำให้สามารถลดต้นทุนจากเดิมเฉลี่ยประมาณ 4,000-5,000 บาท เหลือ 3,000-3,500 บาทต่อไร่
ตอนนี้ชาวนามีความกังวลว่าราคาปุ๋ยเคมีจะสูงขึ้นไปอีกเพราะหากไม่ใช้ปุ๋ยเคมีผลผลิตก็จะไม่ได้เลย ชาวนายังต้องพึ่งปุ๋ยเคมี ปุ๋ยยูเรียกระสอบละ 1,600 บาท แม่ปุ๋ย 18-46-0 ราคาอยู่ที่กระสอบละ 2,000 บาท จากเดิมราคา 800-900 บาท ขณะที่ ราคาข้าวเปลือกอยู่ที่ 6,000 – 8,000 บาทต่อตัน ชาวนาต้องพยายามหาทางลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด มิฉะนั้นอยู่ไม่ได้ขายข้าวไม่เหลือกำไร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: