นายชวลิต ฉลอม ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 12 จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำปัจจุบัน เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่ามีร่องความกดอากาศพาดผ่านประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักในบริเวณภาคเหนือ และมีปริมาณน้ำจากตอนบนไหลลงมาสู่พื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ที่สถานีวัดน้ำ C2 อัตราประมาณ 1,589 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้กรมชลประทานประกาศแจ้งเตือนพื้นที่ท้ายน้ำว่าจะมีการระบายน้ำเพิ่ม จากอัตรา 4,400 เป็น 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม เป็นต้นมา ปัจจุบันยังระบาย 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สำหรับเกณฑ์ที่ประกาศไปว่าจะมีการระบายถึง 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทางกรมชลประทานได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำจากพื้นที่ตอนบนไหลลงมารวมที่จังหวัดนครสวรรค์ในเกณฑ์อัตรา 1,800-1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมทั้งแม่น้ำสะแกกรัง และแม่น้ำสาขาที่จะไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา ในอัตรา 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะมีการปรับการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
สำหรับพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากเกณฑ์การระบายน้ำดังกล่าว ได้แก่ จังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ในจุดที่ได้รับผลกระทบจุดแรกคือ บริเวณอำเภอผักไห่ หัวเวียง เสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะประชาชนริมแม่น้ำน้อย และคลองโผงเผงที่ได้รับผลกระทบ น้ำยกตัวสูงขึ้นประมาณ 25 เซนติเมตร จะทำให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่นอกเขตคันกั้นน้ำ
ข่าวน่าสนใจ:
- กาญจนบุรี ชาวบ้านรวมกลุ่มบุกรุกพื้นที่อุทยานขุดพรุน 14 ไร่ หาแร่ทองคำล้ำค่า เจ้าหน้าที่บุกจับแจ้ง 6 ข้อหาอ่วม
- "ไทย-ญี่ปุ่น" 70 ปี ของความร่วมมือเพื่อการพัฒนา (ODA) ในประเทศไทย
- ตรัง เตือนภัยเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-ดินสไลด์ ใน 6 อำเภอ พร้อมซ้อมแผนรับมือภัยพิบัติ
- นนทบุรี 2 ผัวเมียขายที่ดินได้หลักล้านตั้งใจขี่รถ จยย.นำเงินไปฝากธนาคาร ระหว่างทางหักหลบรถกระบะพุ่งชนฟุตบาทเมียตกจากรถหัวกระแทกพื้นดับ
กรณีที่จะมีน้ำทะเลหนุนสูงในช่วง 2-3 วันนี้ จะทำให้ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร ระดับน้ำจะสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 30 เซนติเมตร ซึ่งยังไม่มีผลต่อตลิ่งในพื้นที่ตั้งแต่บางไทรลงไป สำหรับจุดที่เป็นจุดเช็คพ้อยปริมาณน้ำที่จะเข้าเขตปริมณฑลและกรุงเทพมหานครคือ สถานีวัดน้ำบางไทร 29A ซึ่งควบคุมไม่ให้เกิน 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1,480 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นเป็น 40% ของความจุลำน้ำซึ่งยังไม่ส่งผลกระทบในจุดนี้ แม้ว่าจะมีการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในเกณฑ์ 1,500 ลูกบาศก์เมตรวินาที และผ่านเขื่อนพระรามหกอยู่ในเกณฑ์ 420 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจกรมชลประทาน และหน่วยงานด้านน้ำ จะบริหารจัดการน้ำให้เต็มกำลัง อุปกรณ์เครื่องจักรเครื่องมือที่เรามีจะสนับสนุนให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ สำหรับพื้นที่เพราะปลูกทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก จะได้เก็บเกี่ยวได้ทันก่อนน้ำจะเข้าท่วมพื้นที่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: