นายนที มนตริวัต รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยา +17.70 ม.(รทก.) สูงกว่าระดับปกติ ทำให้แรงดันน้ำรั่วแนวคันกั้นน้ำเข้ามา ถ้าไม่ข้ามก็จะลอดใต้แนวกั้น จึงได้ประสานกับทางชลประทานเพื่อให้ลดระดับน้ำเหนือเขื่อนลง ซึ่งขณะนี้ได้มีแนวโน้มเริ่มลดลงชั่วโมงละ 1-2 เซนติเมตร ซึ่งทราบมาว่าชลประทานได้พยายามผันน้ำออกทางคลองชัยนาท-ป่าสัก และแม่น้ำน้อย
ส่วนหนึ่งท้องถิ่นยังไม่เข้าใจเรื่องระเบียบอุบัติภัย รวมทั้งเงินทดรองราชการต่างๆ พรุ่งนี้(10ต.ค.65) จะประชุมนายกฯ และปลัด เทศบาล และ อบต. ที่อยู่ริมน้ำและได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เพื่อพูดคุยเรื่องการใช้จ่ายเงินของ อปท. อำนาจหน้าที่มีอย่างไรบ้าง จังหวัดจะช่วยอะไรได้บ้าง ทุกวันนี้เรามีการจัดสรรเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้ว อำเภอละ 5 แสนบาท แต่ อปท.ไม่กล้าใช้ เพราะการใช้เงินหากผิดประเภท หรือผิดวิธีไปเขาก็เกิดความเสี่ยง วิธีที่ดีที่สุดเขาจึงไม่ทำ เพราะกลัวถูกตรวจสอบจาก หน่วยตรวจสอบเรื่องการใช้เงิน และคอยลงโทษ ส่งผลให้หน่วยปฏิบัติไม่กล้าใช้เงิน
จึงขอฝากไปถึงทั้ง 2 หน่วย คือ สตง. และ ปปช. ถ้าท่านอยู่ในพื้นที่ท่านจะรู้ว่าประชาชนเดือดร้อน บางหน่วยงานไม่รู้ก็ใช้เงินไปก่อนเพื่อช่วยประชาชน แต่สุดท้ายท่านมาเช็คบิลตามหลังก็จบ ใครก็กลัวไม่ทำดีกว่า ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ขอฝากว่าท่านจะตรวจสอบให้ดูก่อนว่าเขาตั้งใจทุจริตหรือไม่ เขาทำเพื่อช่วยชาวบ้านหรือไม่ ท่านต้องดูเหตุสุดวิสัยที่เขาทำด้วย
สถานการณ์จะดีขึ้นถ้าน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลด น้ำท้ายเขื่อนลด ขออธิษฐานอย่างเดียวว่า อย่ามีฝนตกลงมาอีก (ยกมือประนม) “สาธุ อย่าได้มีฝนตกลงมาอีก” ขณะนี้ริมแม่น้ำเจ้าพระยามีหลายจุดที่แนวคันกั้นน้ำรั่ว ซึ่งได้มีกำลังพลจากศูนย์การทหารปืนใหญ่ อส. กำนันผู้ใหญ่บ้าน อปท.ต่างๆ มาช่วยกัน ผมว่าน้ำมาอาจทำลายทรัพย์สินบางส่วน แต่สิ่งหนึ่งก่อให้เกิดความสามัคคี ในการร่วมแรงร่วมใจกันของคนในพื้นที่ “น้ำมา ทำให้เกิด สามัคคี”
