จากกรณีระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงขึ้น เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำกว่า 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้น้ำเซาะถนนคันคลองมหาราช (คลองชัยนาท-อยุธยา) บริเวณหมู่ 12 ตำบลตลุก อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ขาดลงเมื่อกลางดึกของวันที่ 14 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้าน และรถยนต์ที่ขับผ่านจุดขาด 1 ปลิวหายไปกับน้ำที่ไหลเชี่ยว แต่คนขับรถยนต์รอดมาได้
ซึ่งได้ระดมเจ้าหน้าที่ประดาน้ำจากมูลนิธิร่วมกตัญญูชัยนาท ลงค้นหา 3 ครั้งแล้วไม่พบ จนวันนี้ได้ประสานชลประทานปิดประตูระบายน้ำที่ปากคลองมหาราช ทำให้พบรถที่จมหายไปวันเกิดเหตุ อยู่ห่างช่องที่คันคลองขาดประมาณ 50 เมตร สภาพหงายท้องส่วนหน้ารถปักลงมีทรายถมทับเกือบมิดคัน ใช้รถยก 2 คันดึงไม่สำเร็จลวดสลิงขาดไป 2 ครั้ง จึงต้องยุติการกู้รถ เจ้าของรถเผยสถานการณ์เวลานั้นคิดว่าตายแน่น้ำซัดจมไปกว่า 5 นาที ในใจคิดถึงหลวงพ่อกวยอย่างเดียว เชื่อรอดมาได้เพราะบารมีหลวงพ่อกวย
นายธนโชติ กนิษฐจินดา อายุ 53 ปี ชาวตำบลตลุก อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท เล่าว่า วันเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2565 ขับรถเชฟโรเลต แคปติวา เดินทางกลับจากงานศพน้องที่วัดฝาง มาถึงที่เกิดเหตุประมาณ 00.05 น. พอดีทางมืดมองไม่เห็นว่าถนนขาดไป 4-5 เมตรแล้ว รถหัวปักดิ่งลงน้ำไป ประมาณ 2 นาทีจึงเปิดกระจกออกมาได้ จะขึ้นแต่ขึ้นไม่ได้น้ำแรงซัดตัวลงไปด้านล่าง ลงไปพร้อมรถ อยู่ใต้น้ำประมาณ 5-6 นาที เกือบตายเหมือนกัน ว่ายน้ำข้ามไปอีกฝั่งดึงกอหญ้าไว้ได้ ได้รับบาดเจ็บที่หน้าผากเล็กน้อย พอดีมีรถจักรยานยนต์ตามหลังมาเห็นพอดีได้พาไปส่งที่บ้าน 
ตอนนั้นนึกถึงหลวงพ่อกวยอย่างเดียว เพราะคล้องหลวงพ่อกวยติดตัวอยู่ หลังจากนำรถขึ้นได้จะไปกราบแก้บนหลวงพ่อกวย ภายในรถมีสิ่งของสำคัญหลายอย่าง เช่น หลวงพ่อกวย โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ และเอกสารต่างๆ เชื่อว่าตนรอดมาได้เพราะบารมีหลวงพ่อกวย ที่คล้องอยู่คือหลวงพ่อกวยปี 2521
