วันนี้ 25 กันยายน 22566 ที่บริเวณ เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และติดตามแนวทางในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝนที่ตกหนัก รวมถึงการรับมือของปรากฏการณ์เอลนีโญ
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำที่สถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ มีปริมาณเพิ่มขึ้นจึงต้องใช้เขื่อนเจ้าพระยาเป็นตัวบริหารจัดการ โดยนำน้ำเข้าไปเก็บทั้ง 2 ฝั่ง ระบบชลประทาน เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยาเป็นเขื่อนทดน้ำ ไม่ใช่เขื่อนเก็บน้ำ โดยนำเข้าระบบไปวันละ 45 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายออกท้ายเขื่อน 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรักษาระบบนิเวศ เพื่อการอุปโภคบริโภค เพื่อกิจกรรมต่างๆ ของจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี โดยเฉพาะการผลักดันน้ำเค็ม และเพื่อการประปา ขณะนี้ได้มีการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง หากเปรียบเทียบวันนี้กับปีที่แล้ว เขื่อนเจ้าพระยาระบายที่ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่วันนี้ระบาย 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เราจึงต้องเก็บน้ำเพื่อให้มีใช้ในช่วงฤดูแล้ง
ทางด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เรื่องอุทกภัยไม่น่ามีปัญหาอะไร ขณะเดียวกันได้พยายามระบายน้ำเข้าสู่ระบบกักเก็บต่างๆ ซึ่งในวันที่ 1 พ.ย.66 จะมีการหารือกันอีกครั้งว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่จะบริหารจัดการน้ำอย่างไร ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำชับกรมชลประทานให้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน
