ปิดตำนานแพขนานยนต์ ข้ามฟาก ชัยนาท – อุทัยธานี ที่บริเวณอำเภอมโนรมย์ เปิดให้บริการวันนี้เป็นวันสุดท้าย จนถึงเวลา 21.00 น.ก่อนเลิกให้บริการตลอดไป เตรียมขายราคา 3.5 ล้านบาท เนื่องจากสะพานข้ามเจ้าพระยาใกล้เสร็จ
นายบัญชา ช้างเขียว อายุ 42 ปี เจ้าของกิจการแพขนานยนต์ศรีประเสริฐ กล่าวว่า กิจการแพขนาดยนต์นี้ได้ทำมาเป็นเวลาประมาณ 80 ปี มีเจ้าของกิจการทั้งหมด 3 คน ซึ่งปัจจุบันคือครอบครัวของตนได้ดำเนินกิจการมาเป็นระยะเวลาประมาณ 38 ปี
การเลิกกิจการแพขนานยนต์ของต.คุ้งสำเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท สืบเนื่องมาจากมีการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ ซึ่งก็ยังสามารถใช้บริการได้อยู่ แต่ตนคำนึงความปลอดภัยและความสะดวกของผู้มาใช้บริการ เพราะต้องผ่านสถานที่ที่มีการก่อสร้าง จึงเปิดให้ใช้บริการในวันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2562 เป็นวันสุดท้าย จนถึงเวลา 21.00 น. และในส่วนของแพขนานยนต์ก็จะขายโดยตั้งราคาไว้ที่ 3.5 ล้าน และได้จัดการทำบุญแพขนานยนต์ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2562
ซึ่งการเลิกกิจการแพขนานยนต์นี้ นายบัญชา ช้างเขียว กล่าวอีกว่า การเลิกกิจการแพขนานยนต์ไม่ได้ส่งผลกระทบหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับลูกน้อง เนื่องจากแต่ละคนมีอาชีพเสริมอยู่แล้ว บางคนก็มีไร่มีสวนเป็นของตนเอง และยังมีการชดเชยค่าจ้างในบางส่วนในการยกเลิกกิจการอีกด้วย ส่วนตนเองก็มีกิจการอื่น ๆ อยู่แล้วจึงไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร
สำหรับความคิดเห็นในโซเชียลและประชาชนในตลาดมโนรมย์รู้สึกเสียดายที่ไม่มีแพขนานยนต์นี้แล้ว นายประเสริฐ บุษวดี อายุ 69 ปี ชาวบ้านวัดยาง ผู้มาใช้บริการแพขนานยนต์ ได้กล่าวว่า การที่มีสะพานข้ามน้ำแทนการใช้แพขนานยนต์นั้น ทำให้การเดินทางสะดวกสบายกว่า เนื่องจากการเดินทางโดยใช้แพขนานยนต์อาจจะทำให้การเดินทางนั้นล่าช้า ด้านนางเนาวรัตน์ ดำรงยศ อายุ 72 ปี ชาวบ้านบริเวณตลาดมโนรมย์ ได้กล่าวว่า การสร้างสะพานและหยุดการใช้แพขนานยนต์นั้น ส่งผลกระทบต่อพ่อค้าแม่ค้าทำให้ค้าขาดผลประโยชน์ทางการค้าขาย เพราะถ้ายังมีแพขนานยนต์อยู่คนที่มาจอดรถรอขึ้นแพก็จะมาซื้อสินค้าของตนเอง
