อุบลราชธานี – เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 24 ม.ค. พ.ต.ท.วิจิตร สายเบาะ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ในหมู่บ้านหนองแต้ หมู่ 1 ต.ขี้เหล็ก อ.เมือง และไฟจากบ้านต้นเพลิงกำลังลุกลามไปบ้านใกล้เคียงอีก 2 หลัง จึงพร้อมรถดับเพลิงจาก อบต.ขี้เหล็ก อบต.หัวเรือ เทศบาลนครอุบลราชธานี และเทศบาลตำบลขามใหญ่ มูลนิธิการกุศลอุบลราชธานี เข้าช่วยกันดับไฟที่กำลังโหมไหม้ขึ้นอย่างรุนแรง
โดยเพลิงลุกไหม้ขึ้นบริเวณชั้นที่สองของบ้านระหว่างบ้านนางปราณี สายแวว อายุ 71 ปี กับนางจารุวรรณ สายแวว อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูนสองชั้นทั้งสองหลัง ที่ปลูกสร้างแบบเบียดชิดติดกัน หลังคาบ้านห่างกันประมาณ 1 เมตร โดยบ้านทั้งสองหลังไฟกำลังโหมไหม้อย่างรุนแรง และกำลังลุกลามไปติดบ้านหลังที่สามบริเวณหลังคา ซึ่งเป็นบ้านของนายคำดี สายแวว ที่เปิดเป็นร้านขายของชำประจำหมู่บ้าน
เจ้าหน้าที่ดับเพลิง จึงช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดไฟและเร่งฉีดดับไฟบ้านทั้งสองหลังที่ไฟกำลังลุกไหม้ เพื่อไม่ให้ลุกลามไปบ้านหลังอื่นได้อีก จนเวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง ก็สามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ โดยไฟทำความเสียหายให้บ้านสองหลังแรก ส่วนบ้านหลังที่สามเสียหายบริเวณหลังคาและผนังบ้านชั้นบน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท
จากการสอบถามนายจีนดา สายแวว อายุ 38 ปี คนในหมู่บ้านเล่าว่า ระหว่างปั่นจักรยานสองล้อกลับจากกองทุนหมู่บ้าน จะไปกินข้าวเช้าที่บ้านของตนเอง ผ่านมายังจุดเกิดเหตุที่เป็นบ้านญาติพี่น้องกัน มองเห็นไฟกำลังลุกไหม้ขึ้นจากชั้นที่สองบริเวณหลังบ้านนางปราณี ก่อนลุกลามไหม้ตัวบ้านทั้งหมด และไฟยังถูกลมกรรโชกไปติดบ้านนายคำดี จึงตะโกนเรียกชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วยกันดับไฟ
เนื่องจากขณะเกิดเหตุบ้านต้นเพลิงทั้งของนางปราณีและนางจารุวรรณ ไม่มีใครอยู่บ้าน พากันไปอยู่ที่นา ส่วนบ้านนายคำดี ก็มีเพียงคนแก่อายุมากเฝ้าอยู่และไม่รู้เรื่องว่าเกิดไฟไหม้ขึ้นที่บ้านติดกัน จึงพยุงนำตัวออกมาโดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ก่อนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเดินทางมาถึงและช่วยกันดับไฟ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานการเกิดเพลิงไหม้อาจมาจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากบ้านปลูกสร้างมานานหลายสิบปีแล้ว ซึ่งจะได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบยืนยันสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ที่ชัดเจนอีกครั้งต่อไป
