จากกรณีพิษของยาเสพติดที่ระบาดหนักตามแนวชายแดนไทย-ลาว ทำให้ลูกชายวัย 33 ปี ที่เป็นทาสยามานานเกิดอาการหลอน ใช้จอบ ไม้ตีพ่อแม่ดับคู่กลางสวนมันสำปะหลังในตำบลสารภี อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี ขณะ ตร.เข้าจับตัวลูกที่ก่อเหตุ ยังอยู่ในอาการเมายายังไม่สร่าง เมื่อตรวจฉี่เป็นสีม่วง ส่วนน้องสาวน้องเขยบอกช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา พี่มีอาการคลั่งยาทำลายข้าวของและทุบตีสัตว์เลี้ยง แต่คิดไม่ถึงจะมาฆ่าพ่อแม่
***ขอบคุณภาพนิ่ง/คลิปเก็บศพ สมาคมกู้ภัย เขมราฐ – จีตัมเกาะ***
จากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุนายเอนก อิธิ อายุ 33 ปีลูกทาสยาบ้าใช้จอบและไม้ก่อเหตุฆ่านายนางอุไร และนายวิลัย อิธิ สองผัวเมีย ขณะไล่ต้อนวัวกลับเข้าคอกที่เลี้ยงไว้ในไร่มันสำปะหลังห่างจากบ้านประมาณ 2 กม. ในเขตบ้านภูเวียง หมู่ที่ 8 ตำบลสารภี อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี
ข่าวน่าสนใจ:
โดยนายเอนกก่อเหตุใช้จอบตีนางอุไร เสียชีวิตก่อนนำศพยัดไปไว้ในเตาเผาถ่าน และนำไม้ที่เตรียมใช้เผาถ่านทับร่างผู้ตายไว้ ต่อมานายวิลัยผู้เป็นพ่อต้อนวัวมายังจุดที่นางอุไร เมียดูแลสวนมันสำปะหลัง ลูกชายผู้ก่อเหตุก็ใช้ไม้ตีเข้าที่ศีรษะนายวิลัย จนเสียชีวิต และลากร่างมารวมกันที่เตาเผาถ่าน เพื่อจะทำการเผาร่างสองพ่อแม่ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าถังน้ำตาลที่นายวิลัย ผสมเอาไว้ให้วัวกินเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง
***ขอบคุณภาพนิ่ง/คลิปเก็บศพ สมาคมกู้ภัย เขมราฐ – จีตัมเกาะ***
เมื่อไม่สามารถเผาศพของบิดาและมารดาได้ นายเอนกที่มีอาการเมายาได้ขี่จักรยานยนต์วนเวียนอยู่ในป่ามันสำปะหลังของหมู่บ้าน จนชุดสืบสวนของเจ้าหน้าที่นำโดย พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ ส่องแสง สว.สส.สภ.โพธิ์ไทร เข้าจับกุมตัวไว้ได้
แต่ขณะนั้น นายอเนกผู้ก่อเหตุที่อยู่ในอาการเมายาบ้าไม่สร่าง ไม่สามารถให้การอะไรได้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายอเนกที่ปิตุฆาตพ่อแม่ไปตรวจหาสารเสพติด พบปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงนำตัวเข้าห้องควบคุมไว้รอให้มีสติก่อน
จากการสอบถาม น.ส.เยาวลักษณ์ อิธิ อายุ 25 ปี ลูกสาวผู้ตายทั้งสองคนและเป็นน้องนายเอนก ซึ่งมาดูความคืบหน้าเข้าพูดคุยกับพี่ชายเล่าว่า เช้าวันนี้ พี่ชายเริ่มมีสติ แต่ยังไม่ยอมพูดจากหรือให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงสาเหตุที่ก่อเหตุฆ่าพ่อและแม่
สำหรับตนแล้วเสียใจเกินกว่ารับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัว อยากฝากถึงผู้เสพยาอยู่ขณะนี้ ให้ครอบครัวของตนเป็นครอบครัวสุดท้ายที่ถูกยาทำลาย หากพี่ชายกลับมามีสติอยากถามว่าพ่อแม่เลี้ยงเรามาไม่มีความหมายหรือไง เพราะสภาพศพพ่อดูไม่ได้ ส่วนแม่ก็ถูกใส่ไว้ในเตาเผาถ่าน เพราะพี่ชายคงคิดว่าแกลลอนน้ำตาลหมักให้วัวกินเป็นน้ำมัน เมื่อเผาไม่ได้ก็เลยหนีไป
ซึ่งก่อนหน้านี้ นายอเนกพี่ชาย ไม่เคยมีอาการจะทำร้ายคนในครอบครัว มีเพียงทำลายข้าวของและสัตว์เลี้ยงจากอาการหลอนยา แต่ไม่ได้มาแจ้งเจ้าหน้าที่
ด้านน้องเขยเล่าว่า คนก่อเหตุเมื่อเสพยาจะมีอาการหลอน ซึ่งเริ่มมาเสพเอาช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็นึกไม่ถึงจะหลอนรุนแรงถึงกับฆ่าพ่อตาและแม่ยายตายในครั้งนี้
สำหรับนายอเนกที่ถูกคุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.โพธิ์ไทร ขณะนี้รู้สึกตัวแล้ว แต่ยังไม่ยอมพูดจากับใคร เจ้าหน้าที่ จึงยังไม่นำตัวออกมาสอบสวนปากคำ เพราะต้องรอให้สภาพจิตใจเข้าสู่ภาวะปกติก่อน
***ขอบคุณภาพนิ่ง/คลิปเก็บศพ สมาคมกู้ภัย เขมราฐ – จีตัมเกาะ***
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: