หนุ่มคนงานสถานบันเทิงชื่อดังของจังหวัดอุบลราชธานี ตกงานต่อเนื่องจากโรคระบาดมา 2 ปี สุดหนทางหากิน วิ่งราวสร้อยร้านขายทองถูกจับได้บอกถ้ารอดก็มีเงินใช้ ถ้าไม่รอดก็ติดคุกจะได้มีข้าวกิน เพราะไม่มีงานทำ
ขอบคุณคลิปจาก ร้านทองอนันต์
เมื่อช่วงสายวันที่ 20 มี.ค. ขณะที่นายจิระวัฒน์ เจริญสัตยธรรม (สัด-ตะ-ยะ-ทำ) อายุ 54 ปี เจ้าของร้านทองทองอนันต์ ตั้งอยู่หน้าตลาดสดเทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เปิดร้านขายทอง ก็มีลูกค้าเป็นผู้หญิงอายุห้าสิบปีเศษ เข้ามาขอซื้อแลกเปลี่ยนสร้อยคอทองคำเส้นใหม่
ในขณะเดียวกับที่ลูกค้าผู้หญิงรายนี้ เดินเข้ามาในร้าน ก็มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วมสูงใหญ่ทราบชื่อต่อมาว่า นายคมกฤษ ด้วงมี อายุ 28 ปี บ้านเดิมอยู่อำเภอเมือง จ.พะเยา ปัจจุบันมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่สถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี เดินตามหลังเข้ามาทำทีเหมือนมาด้วยกัน
ระหว่างเจ้าของร้านได้หยิบเอาถาดใส่สร้อยคำทองคำหนักเส้นละ 2 บาท กว่าสิบเส้นมาวางให้ลูกค้าผู้หญิงรายนี้เลือกซื้อ นายคมกฤษก็ฉวยจังหวะเดินเข้ามาทางด้านหลังของผู้หญิงที่เป็นลูกค้า ก่อนใช้มือกระชากเอาสร้อยทองคำ 3 เส้น หนัก 6 บาท มูลค่ากว่า หนึ่งแสนแปดหมื่นบาทออกไปจากถาด เจ้าของร้านและลูกค้าจึงได้ร้องตะโกนให้พ่อค้าแม่ค้าที่อยู่แถวนั้นช่วยกันจับตัว รวมทั้งตำรวจจราจรที่อยู่ในป้อมยามก็พากันวิ่งไล่ตามจากหน้าตลาดไปทันคนร้ายที่ท้ายตลาด
ซึ่งระหว่างที่คนร้ายวิ่งหลบหนี ก็ได้โยนสร้อยที่กระชากขาดติดมือหนักประมาณ 6 บาท ทิ้งไว้ระหว่างทาง ชาวบ้านที่พบเห็นก็นำมาคืนให้ แต่มีน้ำหนักทองขาดไปประมาณ 1 บาท ซึ่งเจ้าของร้านทองระบุว่า เป็นชิ้นส่วนของทองที่อาจร่วงหล่นตามพื้น ขณะที่คนร้ายวิ่งหนี
จากการสอบถามนายคมกฤษ ผู้ต้องหาเบื้องต้นทราบว่า เคยเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหารอยู่ที่สถานบันเทิงชื่อดังของจังหวัด และเมื่อเกิดโรคระบาดที่ทำงานถูกปิดมานานเกือบ 2 ปี ไม่มีงานทำ ทำให้มีปัญหากับแฟนสาวอยู่ด้วยกัน จึงตัดสินใจมาวิ่งราวทอง เพราะถ้ารอดก็เอาไปขายพอมีเงินใช้ แต่ถ้าไม่รอดก็ขอติดคุกประชดแฟน และมีข้าวกิน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์
ด้านนางสุพัฒน์ คงพะเสน อายุ 49 ปี แม่ค้าขายเห็ดขายหน่อไม้หน้าร้านทองเล่า เหตุการณ์ให้ฟังว่า ระหว่างนั่งขายของได้ยินเสียงผู้หญิงที่เป็นลูกค้าเข้าไปซื้อทองในร้านตะโกนบอกว่า โจรวิ่งราวทองให้ช่วยกันจับ จังหวะนั้นก็เห็นคนร้ายวิ่งออกมาจากร้าน ตนพยายามจะขัดขาคนร้ายแต่ไม่ทัน ตนกับลูกค้าที่มาซื้อของ และตำรวจที่อยู่ในป้อมเห็นเหตุการณ์ จึงได้พากันวิ่งไล่ตามจับคนร้ายไว้ได้ เมื่อจับคนร้ายได้ก็อ้างว่า อยู่ข้างนอกหากินอยาก ก็เลยอยากติดคุก ส่วนลูกค้าผู้หญิงที่มาซื้อทองระหว่างเกิดเหตุ หลังจับคนร้ายได้ ก็ยังเลือกซื้อสร้อยทองตามที่ต้องการไป 1 เส้นด้วย
ด้าน พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษี รองผู้กำกับการ สืบสวน สภ.วารินชำราบ เปิดเผยว่าต้องชื่นชมพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ได้อย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พร้อมที่จะปกป้องทรัพย์สินและความเป็นอยู่ของประชาชน 24 ชั่วโมง ประกอบกับตามนโยบายขปงผู้บังคับบัญชาจัดให้มีเซฟตี้โซน ในพื้นที่เศรษฐกิจ และชุมชนจึงทำให้คนร้ายไม่สามารถที่จะหลบหนีไปได้แต่แม้หลบหนีได้ก็จะถูกกล้อง CCTV จับภาพได้ติดตามตัวได้อยู่ดี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: