นครศรีธรรมราช:ชาวพรหมคีรี ยกโขยงยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม เร่งติดตามคดี ผญบ.โหดยิงภรรยาดับต่อหน้าแม่ 2 เดือนคดีไม่คืบหน้า หวังศูนย์ดำรงธรรมเป็นที่พึ่งพิงประชาชนเดือดร้อนทำงานเร่งด่วน ประสาน ตร.พื้นที่เกิดเหตุจับกุมลงโทษทางกฎหมาย
จากกรณีที่นางอรอุมา หนูทอง อายุ 49 ปี พร้อมบุตรสาววัย 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 ม.6 ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ได้เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนเพื่อให้เป็นสื่อกลางติดตามความคืบหน้าในคดีฆาตกรรมนางสาวมาลิตา กุลศรี (บุตรสาวคนโต) หลังถูก นายเกรียงศักดิ์ กุลศรี ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.นาเรียง อ.พรหมคีรี (ผู้เป็นสามี) ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ชนิดไทยประดิษฐ์ ยิงจนเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาของตนเอง เหตุเกิดบนถนนสายเขาปูน-กำแพงถม บริเวณหน้าบ้านของนายสมพงษ์ จันทร์ภักดี ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เวลาได้ล่วงเลยผ่านไปกว่า 2 เดือน ยังไม่มีความคืบหน้าของคดีแม้แต่น้อย
ล่าสุดวันนี้ 24 พฤษภาคม 2561 นางอรอุมา มารดาผู้เสียชีวิต พร้อมญาติพี่น้อง และชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่มาร่วมให้กำลังใจ ได้พร้อมใจกันเข้ายื่นหนังสือร้องของความเป็นกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายฐานะ กู้เมือง รักษาการแทนผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม เป็นตัวแทนมารับหนังสือ เพื่อให้ช่วยติดตามเร่งรัดการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ในการจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด เนื่องจากระยะเวลาได้ล่วงเลยผ่านไปกว่า 2 เดือน คดีความยังไม่มีความคืบหน้า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษทางกฎหมายได้ ขณะเดียวกันทางครอบครัวยังได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะความไม่ปลอดภัยในชีวิตเนื่องจากได้รับการข่มขู่จากผู้กระทำความผิดว่าจะย้อนกลับมาฆ่ายกครัว ซึ่งเกรงว่าจะได้รับอันตรายและไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกรงว่าฆาตกรจะลอยนวลเหมือนคดีอื่นๆ
นายฐานะ กู้เมือง รักษาการแทนผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม กล่าวว่า หลังจากได้รับหนังสือจากผู้เสียหายแล้วได้ขอระยะเวลาในการพิจารณาเอกสาร ไม่เกิน 20 วัน และจะรายงานให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ พร้อมประสานไปยัง สภ.พรหมรีคีเจ้าของคดี เพื่อให้เร่งรัดในการติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิด เนื่องจากขณะนี้ทางศูนย์ดำรงธรรมมีเรื่องราวร้องขอความเป็นธรรมเข้ามามากมายจึงจำเป็นต้องทยอยไปทีละเรื่องและตามขั้นตอนปฏิบัติ แต่อย่างไรก็ตามทางศูนย์ดำรงธรรมได้รับปากกับผู้เสียหายว่าจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด และหากมีความคืบหน้าใดๆ จะประสานงานไปทางผู้เสียหายได้รับทราบในทันที
นางอรอุมา กล่าวว่า วันนี้มีความคาดหวังสูงมาก ว่าทางศูนย์ดำรงธรรมจะสามารถช่วยเหลือตนและครอบครัวได้ในเรื่องของคดี โดยเฉพาะขอแค่เพียงให้สามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมารับโทษทางกฎหมายให้ได้ก็เพียงพอ การดำเนินชีวิตของตนและบุตรสาวจะได้กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติสุขเหมือนเดิม ซึ่งช่วงระยะเวลานี้อยากขอการคุ้มครองความปลอดภัยจากทางเจ้าหน้าที่ให้ช่วยมาตรวจตราความสงบเรียบร้อยบริเวณบ้านของตนบ้าง แต่หากยังไม่มีความคืบหน้าอีก ก็จะเดินทางเข้าขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 4 เพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป
