นครศรีธรรมราช:ผู้การเมืองคอนถึงกับเก็บความรู้สึกส่วนตัวไว้ไม่อยู่ รู้สึกเสียใจอย่างที่สุดหลังสูญเสียเพื่อนข้าราชการตำรวจ ในท้องที่ สภ.การะเกด อ.เชียรใหญ่ หลังประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต พร้อมภรรยา ลูก และแม่ยาย รวม 4 ศพ เตือนผู้ใช้รถใช้ถนนอย่าประมาท ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง อย่าใช้ความเร็ว
ร.ต.อ.ศรศักดิ์ ใบมิเด็น รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชเปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ จ.ส.ต.ทนงศักดิ์ เพชรสงค์ อายุ 40 ปี รับราชการตำรวจประจำอยู่ที่ สภ.การะเกด อ.เชียรใหญ่ ได้ขับขี่รถยนต์เก๋งส่วนตัวมาพร้อมกับผู้โดยสารอีก 3 คน ได้เกิดเสียหลักพุ่งอัดชนกับต้นไม้ข้างถนน ช่วงระหว่างถนนสายปากพนัง-หัวไทร ม.7 ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง เป็นเหตุให้ตำรวจนายดังกล่าวพร้อมกับผู้โดยสารที่ติดรถมาด้วยเสียชีวิตยกคัน โดยมีภรรยา ลูก และแม่ยายรวม 4 ราย โดยหลังเกิดเหตุได้รายงานให้ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จว นศ.ผู้บังคับบัญชาทราบ
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เพื่อนตำรวจร่วมรุ่นและผู้บังคับบัญชารวมถึงญาติผู้เสียชีวิตรู้สึกตกใจและเสียใจอย่างมาก เนื่องจากต้องสูญเสียเพื่อนอันเป็นที่รัก และบุคลากรของทางตำรวจไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมาสูญเสียกันทั้งครอบครัว ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาได้กำชับสั่งการให้ทางต้นสังกัดดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยเฉพาะจัดการประสานติดต่อทางญาติและจัดการพิธีบำเพ็ญกุศลศพให้เรียบร้อยสมบูรณ์และสมเกียรติ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวานนี้ (29 พ.ค.61) หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจให้เข้าตรวจสอบเหตุรถยนต์เก๋งประสบอุบัติชนกับต้นไม้ข้างทางมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ปากพนังเข้าตรวจสอบในทันที ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วิออส สีเลือดหมู่ ทะเบียน กน-179 นครศรีธรรมราช ชนอัดกับต้นสนขนาดใหญ่ที่อยู่ริมถนนสภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน มี จ.ส.ต.ทนงศักดิ์ เพชรสงค์ เป็นผู้ขับขี่เสียชีวิตคารถพร้อมกับนางจิตรดา แก้วหนู อายุ 67 ปี ผู้เป็นแม่ยาย และเจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถในการเร่งนำผู้บาดเจ็บอีก 2 รายออกมาจากซากรถให้ได้ โดยการนำเครื่องตัดถ่างง้างซากรถที่พังยับเยินออกอย่างทุลักทุเล จนสามารถนำผู้บาดเจ็บออกมาได้ในที่สุดก่อนนำส่ง รพ.เพื่อทำการช่วยเหลือชีวิตเนื่องจากทั้ง 2 อาการสาหัสและเสียเลือดอย่างมาก โดยทราบชื่อต่อมาคือ นางภัทริยา เพชรสงค์ อายุ 40 ปี และ ด.ช.ปกร์เกียรติ เพชรสงค์ อายุ 12 ปี เป็นภรรยาและลูกชายของ จ.ส.ต.ทนงศักดิ์ฯ แต่เนื่องด้วยทั้ง 2 ไม่สามารถทนพิษบาดแผลที่เกิดจากแรงอัดของรถกับต้นไม้ได้จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ก่อนที่ จ.ส.ต.ทนงศักดิ์จะเสียชีวิตทราบว่าเพิ่งย้ายมารับราชการที่ สภ.การะเกด เมื่อวันที่ 15 พ.ค.61 ที่ผ่านมา โดยย้ายมาจากพื้นที่ จ.ปัตตานี เพื่อมาอยู่กับครอบครัวภรรยาและลูกที่ ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร ซึ่งภรรยานั้นมีอาชีพเป็นเภสัชกรอยู่ที่ รพ.ปากพนัง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้อย่างไร แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้สันนิษฐานไว้เบื้องต้นแล้วว่าผู้ขับขี่อาจขับมาด้วยความเร็วสูง ประกอบกับสภาพถนนที่เปี๊ยกแฉะเป็นบางช่วงเนื่องจากฝนพึ่งหยุดตก และสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมของผู้ขับขี่ จึงทำให้รถเกิดเสียหลักไถลลงข้างทางจนประคองไม่อยู่พุ่งอัดชนกับต้นไม้เข้าอย่างจัง แรงกระแทกของตัวรถกับต้นไม้จึงทำให้ผู้ที่อยู่ในรถทั้ง 4 รายเสียชีวิตดังกล่าว
พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จว นศ.ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์เนื่องจากยังติดราชการอยู่ที่ กทม. โดยตนรู้สึกเสียใจแทนครอบครัวญาติของผู้เสียชีวิต การสูญเสียครั้งนี้เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของทั้ง 2 ครอบครัว ทั้งฝ่าย จ.ส.ต.ทนงศักดิ์ ซึ่งบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดพัทลุง และฝ่ายของภรรยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งวงการตำรวจได้สูญเสียบุคลากรที่ดีไปอีก 1 นาย
ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วรู้สึกเสียดายและเสียใจอย่างที่สุด หลังจากทราบข่าวได้รีบสังการและดำเนินการจัดการให้ทุกอย่าง โดยทราบว่าศพทางญาติได้นำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเกาะเพชร ต.หัวไทร อ.หัวไทรซึ่ง จึงมอบหมายให้รองผู้บังคับการไปดำเนินการจัดการเรื่องพิธีรดน้ำศพให้เรียบร้อยในวานนี้ รวมถึงให้ส่ง “อนุศาสตำรวจ”(ผู้ดำเนินการพิธีทางศาสนา) ไปดำเนินการพิธีตลอดงาน และจะเดินทางลงมาเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพพร้อมกับข้าราชการตำรวจในวันพฤหัสบดี 31 พ.ค.61ที่จะถึงนี้
ในเบื้องต้นได้กำชับให้ สวญ.การะเกดซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้เสียชีวิต จัดทีมตำรวจในพื้นที่เข้าไปดูแลอำนวยความสะดวกในทุกด้าน พร้อมนำพวงหรีดของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรวมถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงไปวางประดับหน้าหีบศพเพื่อร่วมไว้อาลัยและเป็นเกียรติ ส่วนเรื่องสวัสดิการหากผู้เสียชีวิตมีอะไรตรงไหน เกี่ยวกับตำรวจก็จะดำเนินการอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่
“ที่รู้สึกเสียใจไปกว่านั้นเนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตได้รับราชการอยู่ในพื้นที่ 3 จว. ก่อนเสียชีวิตได้ขอย้ายตัวออกมาจากพื้นที่ เพื่อต้องการกลับมาดูแลครอบครัว โดยได้มาประจำอยู่ที่ สภ.การะเกด ในคำสั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พ.ค.61 ที่ผ่านมา แต่กลับต้องมาสูญเสียชีวิตกันทั้งครอบครัวจึงรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างยิ่ง”
ส่วนเรื่องการช่วยเหลือเยียวยานั้น จะต้องบอกว่า การเสียชีวิตในครั้งนี้เป็นการเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่ได้อยู่ในการปฏิบัติหน้าที่ แต่อย่างไรก็ตามจะดูแลช่วยเหลือกันในฐานะที่เราได้เป็นข้าราชการตำรวจด้วยกันอย่างดีที่สุด เพราะเขาได้สูญเสียกันทั้งครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องของสวัสดิการต่างๆที่ผู้เสียชีวิตพึงได้จะดูแลเป็นพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกในทุกๆด้าน
พร้อมฝากเตือนข้าราชการทุกฝ่ายเพื่อนตำรวจทุกนายรวมถึงพี่น้องประชาชน ในเรื่องการใช้รถใช้ถนน ต้องขับขี่กันอย่างระมัดระวัง อย่าใช้ความเร็ว อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้นั้นอาจเกิดจากการที่ถนนลื่น จำเป็นอย่างยิ่งคืออย่าประมาท อันตรายถึงแก่ชีวิต พล.ต.ต.วันไชย กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: