นครศรีธรรมราช:แม้สิ้นสงบเสียงปืนที่ได้ดังกึกก้องเมืองยาโมลงแล้วก็ตาม บทสุดท้ายต่างก็ได้เห็นถึงเรื่องราวที่มาที่ไป บทเรียนบาดลึกที่เหลือทิ้งไว้กับครอบครัวผู้สูญสิ้น คือความทรงจำที่เลวร้ายหลังสูญเสีย โศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่ใครๆ ไม่เคยคาดถึง ครั้งแรกและครั้งเดียวที่ได้เกิดขึ้น หรือครั้งนี้เป็นแค่เริ่มต้น ทุกคนต้องจำใจยอมรับในสิ่งที่เกิดโดยมิอาจลบเลือนออกจากใจคนไทยไปได้แน่นอนบ่ายแก่ๆของวันที่ 8 ก.พ.63 ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา เหตุการณ์สิ่งเลวร้ายได้เกิดขึ้นกลางเมืองโคราช จ.นครราชสีมา ความโศรกเศร้าเริ่มเกิดขึ้น เมื่อจ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ทหารหน่วยกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จังหวัดนครราชสีมา ใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแส ผู้บังคับบัญชาเสียชีวิตภายในบ้านพัก รวมผู้เคราะห์ร้ายที่อยู่ในเหตุการณ์ 3 ราย จุดเริ่มต้นของ โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่เริ่มต้นขึ้น เมื่อทหารคลั่งเข้าไปปล้นปืนที่คลังอาวุธในค่ายทหาร และก่อเหตุการดยิงผู้บริสุทธิ์ล้มตายเกลื่อน ตลอด 17 ชั่วโมงที่แสนยาวนาน หลังสิ้นเสียงปืนนัดสุดท้าย ความเลวร้ายได้จบลง 09.00น.ของวันที่ 9 ก.พ.63 จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ทหารคลั่งกราดยิงโคราชถูกวิสามัญ ภายในห้าง Terminal 21 ทั้ง 30 ชีวิตต้องถูกสังเวยไปกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ บทเรียนที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทย ที่ใครๆ ก็ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น ครั้งแรกครั้งเดียวนี้หรือว่านี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น ใครๆ ก็ไม่อาจรู้ถึงอนาคตได้ แต่คำตอบที่ทุกคนตอบได้ในตอนนี้คือ เคราะห์กรรมของผู้สูญเสียจำต้องรับมาทั้งที่ไม่ต้องการแทบขาดใจเช่นเดียวกับการจากไปของ “ผู้กองหมี” ร.อ.ศิริวิวัฒน์ แสงประสิทธิ์ ผบ.ร้อย.ทพ.4914 กรมทหารพรานที่ 49 จ.นราธิวาส เมื่อผู้ที่รัก ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว ลูกๆทั้ง 3 ญาติพี่น้องทางบ้าน ผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หรือแม้แต่ชาวบ้านทุกคนที่คุ้นเคยใกล้ชิด เมื่อทราบข่าวต่างรู้สึกตกใจและเสียใจกับการจากไปอย่างกระทันหันของผู้กองหมี หลังเสร็จสิ้นการปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนใต้ พาภรรยาครอบครัวเดินทางไปพักผ่อนในห้วงเวลาพัก พ่วงด้วยกิจกรรมเลี้ยงรุ่น ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา แต่กลับมาถูกกราดยิงเสียชีวิตบนถนนระหว่างการเดินทาง สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับครอบครัวคนใกล้ชิดเป็นอย่างมากล่าสุด พ.อ.กำธร ศรีเกตุ ผบ.ฉก.ทพ.49 ผู้บังคับบัญชา เผยว่า หลังทราบเรื่องได้ทำการติดต่อประสานไปยังพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดำเนินการเคลื่อนย้ายร่างมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนา ในพื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งศพของ ร.อ.ศิริวิวัฒน์ ได้เคลื่อนย้ายออกมาจาก จ.นครราชสีมาแล้ว และคาดว่าจะถึงจ.นครศรีธรรมราชในช่วงบ่ายๆวันนี้ 10 ก.พ.63 พร้อมจัดพิธีรดน้ำศพอย่างสมเกียรติในเวลา 16.00น.โดยประมาณ ก่อนตั้งศพสวดบำเพ็ญกุศลในคืนแรกภายในศาลาวัดสำโรง ม.6 ต.นาหลวงเสน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งทางครอบครัวได้ตระเตรียมพื้นที่ไว้เพื่อรอรับเป็นที่เรียบร้อยแล้วร.อ.ศิริวิวัฒน์ แสงประสิทธิ์ เกิดเมื่อวันที่ 18 ก.ย.2507 อายุ 56 ปี มีบิดาชื่อ นายจรัญ แสงประสิทธิ์ อายุ 81 ปี มารดาชื่อ นางผัน แสงประสิทธิ์ อายุ 77 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ ต.สุคิริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ปัจจุบันทั้ง 2 พักอาศัยอยู่กับน้องชายของ ร.อ.ศิริวิวัฒน์ ที่จังหวัดนครปฐม
ร.อ.ศิริวิวัฒน์จบมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.ศ.3) โรงเรียนสุคิรินวิทยา อ.สุคิริน จ.นราธิวาส และศึกษาต่อที่โรงเรียนนักเรียนนายสิบทหารบก รุ่น 14/24 ทบ. และรับราชการในปี 2526 และรับหน้าที่ประจำภาคสนามชายแดนใต้มาตั้งแต่ปี 2547 จนปัจจุบัน ในตำแหน่งผู้บังคับกองร้อยทหารพราน 4914 กรมทหารพรานที่ 49
ร.อ.ศิริวิวัฒน์ สมรสกับนางวทันยา สุภาพ อายุ 53 ปี มีบุตรด้วยกัน 3 คน คือ น.ส.กันต์สินี แสงประสิทธิ์ อายุ 33 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ไสใหญ่ น.ส.จรวยพร จารุเจตน์ อายุ 31 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และบุตรชายคือ ส.อ.ศิริวุฒ แสงประสิทธิ์
ร.อ.ศิริวิวัฒน์ มีด้านเกียรติประวัติคุณงามความดีมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รักและไว้วางใจต่อผู้บังคับบัญชา รวมถึงเพื่อนพ้องและลูกน้องทุกๆคน เป็นที่ยกย่องต่อพี่น้องประชาชนชาวบ้าน ทั้งไทยพุทธ มุสลิมในพื้นที่ “ที่สำคัญยิ่งเป็นเกียรติประวัติที่น่าเชิดชูแก่วงศ์ตระกูล และภาคภูมิใจต่อครอบครัว ภรรยา และลูกๆสุดเกินจะบรรยาย ตลอดชีวิตกับการทำหน้าที่รับใช้ชาติ ปกป้องประเทศ เยี่ยงนักรบ” นอกจากนี้ ร.อ.ศิริวิวัฒน์ ยังเคยได้รับรางวัลพ่อดีเด่น จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ประจำปี 2562 อีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: