นครศรีธรรมราช:ทหาร-ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบบุกจู่โจมปิดล้อมศูนย์พรรคการเมือง “พลังชาติไทย”นครศรีธรรมราช หลังสืบทราบประกอบกิจกรรมแอบแฝงทางการเมือง โดยให้ชมรมจิตอาสานำหน้า หวั่นแอบอ้างเบื้องสูง
ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า วานนี้เวลาประมาณเวลา 16.00น.วันนี้ 7 สิงหาคม 2561 เจ้าหน้าที่ทหารจาก กอ.รมน.กองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราชได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และตำรวจสันติบาล ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ประมาณ 30 นาย ทำการปิดล้อมอาคารพานิชย์ 2 คูหา 3 ชั้น ไม่ทราบเลขที่ ซึ่งอยู่ติดกับศูนย์การค้าสำเพ็งเมืองคอน ถนนพัฒนาการคูขวาง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยอาคารดังกล่าวได้เปิดเป็นอาคารเรียน รร.ศรีนครบริบาล และถูกใช้เป็นสำนักงาน พรรค “พลังชาติไทย”สาขานครศรีธรรมราช ศูนย์ประสานงานภาคใต้ และเป็นที่ตั้งของ”ชมรมจิตอาสาพลังชาติไทย”ภาคใต้ โดยทราบว่ามีการประกอบกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองมาโดยตลอด โดยมีนายมนตรี เฉียบแหลม ว่าที่ผู้สมัคร สส.ในระบบ ปาร์ตี้ลิสต์ จ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้อาศัยอยู่
เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบตัวอาคารพบว่าไม่มีผู้ใดอยู่ภายในตัวอาคาร ประตูด้านนอกถูกล็อคด้วยกุญแจอย่างแน่นหนา เจ้าหน้าที่จึงนำบรรไดเหล็กมาทำการปลดป้าย”ชมรมจิตอาสาพลังชาติไทย”ที่ติดอยู่บริเวณด้านหน้าของตัวอาคารออก
สำหรับสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ได้กระทำการดังกล่าว เนื่องจากได้รับข้อมูลว่าสถานที่ดังกล่าวได้ถูกใช้เป็นที่ทำกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยมีชมรมจิตอาสาเป็นฉากหน้าในการขับเคลื่อนพลหาเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ชื่อจิตอาสาอาจเป็นคำที่หมิ่นเหม่ไม่เหมาะสม ซึ่งตรงกับจิตอาสาของในหลวง ร.10 อาจถือเป็นการเข้าข่ายการแอบอ้างเบื้องสูงในการประกอบกิจกรรมทางการเมือง โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตามความเคลื่อนไหวของชมรมและกลุ่มคนดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง และได้ร้องขอให้ทางเจ้าของสถานที่ทำการปลดป้ายดังกล่าวลง พร้อมกับเข้าชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ แต่ปรากฎว่าทางเจ้าของสถานที่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำขอของเจ้าหน้าที่และเข้าพบเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด จึงนำกำลังเข้าทำการปิดล้อมและปลดป้ายลงดังกล่าว และจะทำการเรียกตัวเจ้าของอาคารสถานที่และนายมนตรี เฉียบแหลม เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาในภายหลังต่อไป
อย่างไรก็ตามความคิดเห็นอีกด้านหนึ่งของสมาชิกใน”ชมรมจิตอาสา”ที่มีการขับเคลื่อนประกอบกิจกรรมทำความดี เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มองว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ ถือเป็นการย่ำยีความรู้สึกของพี่น้องประชาชน และใช้อำนาจในทางมิชอบ เนื่องจากชมรมดังกล่าวได้มีการขออนุญาตอย่างถุกต้องตามกฎหมาย โดยได้รับการอนุญาตจากทางผู้ว่าราชการจังหวัด ให้จัดตั้งชมรมได้ และกิจกรรมที่ผ่านๆมาล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมเพื่อสาธารณะ พัฒนาบ้านเมือง แต่เจ้าหน้าที่กลับมารังแกประชาชน ืไม่มีการตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนเสียก่อน ซึ่งล่าสุดทราบว่าประธานชมรมได้เข้าพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเพื่อชีแจงรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวให้ทราบ เพื่อหาทางแก้ไขและเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่กระทำการดังกล่าวต่อไป
