นครศรีธรรมราช : ฉาวว่อนเน็ต ผู้ปฎิบัติงานดับไฟป่าพรุควนเคร็ง แฉหมดเปลือก หลังอึดอัด ค่าเบี้ยเลี้ยงปฎิบัติงานปี 62 ยังไม่ได้ ท้อใจ “มท.1” และ “ผู้ว่าจำเริญ” รับปากพล่อยๆ ทำชื่อเสียงเมืองคอนเสียหาย ไม่คิดดูแลทีม “ท่อพญานาค” จาก จ.นครปฐมที่เข้าช่วยเหลือนานนับเดือน เสร็จภารกิจเดินทางกลับหน้าแห้ง ตัดพ้อหากป่าพรุไหม้อีกก็หาทางติดต่อขอความช่วยเหลือกันเอง
ผู้สื่อข่าวรายงาน ในโลกโซเชียลได้มีการแชร์ข้อมูลภายในกลุ่มไลน์เฉพาะกิจกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสำหรับการประสานการปฎิบัติภารกิจหน้าที่ “ดับไฟป่าพรุควนเคร็ง” ที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จากทุกหน่วยทุกฝ่ายทุกระดับชั้น ทั้งข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร ตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชาจนถึงระดับปฏิบัติการ รวมถึงอาสาสมัครประจำพื้นที่เกิดเหตุตามจุดต่างๆรวมอยู่ด้วยกว่า 180 คน และส่งต่อๆกันออกไปอย่างกว้างขวาง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันหนาหูถึงความน่าอับอายขายหน้าของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ที่ขาดความรับผิดชอบ ไม่รักษาวาจา ไม่เหลียวแลผู้ใต้บังคับบัญชา คนที่ เหน็ดเหนื่อยในการทำหน้าที่ดับไฟป่า เป็นปียังไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยง โดยข้อความที่ถูกเปิดเผยนั้นถูกโพสต์โดย ด.ต.นายหนึ่ง ซึ่งเป็นสมาชิกอยู่ในกลุ่มไลน์ดังกล่าว ประสงค์เพื่อต้องการให้สาธารณชนได้รับรู้ ถึงความล้มเหลวของการทำหน้าที่ผู้นำ ซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เพียงเพราะวาจาคำพูดที่ไม่ศักดิ์สิทธิ์ส่งผลให้ชื่อเสียงของจังหวัดเสียหาย
โดยข้อความที่โพสต์ระบุว่า “ขอใช้พื้นที่ตรงนี้สักนิดนะครับท่านทั้งหลาย….เรียนท่านรองถาวรวัฒน์ (คงแก้ว) รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช) ช่วยติดตามเรื่องค่าใช้จ่ายของท่อพญานาคให้ด้วยครับ ตามที่ท่านอนุพงศ์เผ่าจินดาสั่งไปกับท่านผู้ว่าจำเริญ (ปัจจุบันย้ายไปอยู่จ.พังงา)ให้ดูแลในเรื่องค่าใช้จ่ายตามสมควร ผู้ใหญ่วิบูลย์เอาท่อกลับนครปฐม แม้แต่น้ำมันเดินทางไม่ให้เขาสักลิตร แบกแต่ความช้ำกลับบ้าน ลองไปศึกษาที่เขาไปช่วยเด็กติดถ้ำดูซิครับเขาทำกันอย่างไรเขาให้อะไรใครเป็นผู้สั่งการ คนนครอายเขามั่งมั๊ยล่ะครับ เขาทวงถามผมมาหลายครั้งแล้ว ที่เขาทวงเพราะทางผู้ใหญ่ของบ้านเมือง (นคร) บอกให้เขาพอเสร็จงานกลับไม่ใส่ใจเขาเลย ผมเคยทวงถามหลายครั้งหลายคน นายอำเภอเชียรใหญ่ก็แล้ว เจ้าหน้าทีทีมีส่วนเกี่ยวข้องก็แล้ว ท่านรองเองก็แล้ว ไม่มีใครใส่ใจเลย ช่วยกันหลับตาคิดดูซิครับ ที่เขาเครื่องราคาห้าหกแสนมาช่วยเราระยะทางเจ็ดแปดร้อยกิโล เดินเครื่องตั้งแต่วันที่ห้าสิงหาไปจบวันที่ยี่สิบสี่สิงหา เดินเครื่องตลอดยกเว้นย้ายที่ตั้ง กินแต่ข้าว นอนก็นอนข้างเครื่อง มันเป็นเรื่องที่ไม่สนุกเลยครับท่านๆๆๆทั้งหลายครับ นี้ผมต้องมาเสียเพื่อนอีก ครั้งสุดท้ายที่เขาโทรมาหาผม มันพรั่งพรูออกมาจากใจของเขา ที่ผิดหวังกับผู้หลักผู้ใหญ่ของนคร และจนบัดนี้เขาไม่โทรมาหาผมอีกเลย ผมไปประชุมทุกวันรับนโยบายทุกวันหน่วยนั้นก็จะเอา นี้ก็จะเอา ท่อพญานาคเป็นพระเอกเลยทีเดียว ลงจุดไหนเห็นผล ทุกจุด น้ำเดินห้ากิโลหกกิโลปลายน้ำเรือชาวบ้านเข้าไปได้เอาน้ำดับไฟได้ พอเสร็จงานควักเงินเองเติมมันกลับบ้าน ไหนบอกว่าประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ มีงบเข้ามามากเบิกไปไหนไปแหมดละท่าน หรือท่านไม่เห็นท่ออันใหญ่โต”
นอกจากนี้ผู้โพสต์ยังนำภาพการพูดคุยการสั่งการกันระหว่างผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรายงานให้ทางองคมนตรีรับทราบซึ่งในโพสต์ได้ระบุอย่างชัดเจนถึงคำยืนยันในการสั่งการของรัฐมนตรีมหาดไทย ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดขณะนั้นคือ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ให้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายตามสมควร นอกจากนั้นยังได้โพสต์ภาพข้าวกล่องที่ได้รับเป็นข้าวเปล่ากับไก่ชิ้นเล็กๆเพียง 1 ชิ้นเท่านั้น และยังระบุว่า กรณีการรับปาก ได้รับคำยืนยันจากข้าราชการในที่ประชุมว่า มีการรับปากไปอย่างนั้นๆเท่านั้น
อย่างไรก็ตามภายหลังผู้โพสต์ได้กล่าวขอโทษในกลุ่มไลน์ดังกล่าวเพราะว่าเก็บมานานอึดอัดและอัดอั้น หากมีกรณีไฟป่าเกิดขึ้นอีกคงไม่กล้าเอ่ยปากให้เขามาช่วยกันดับไฟอีกแล้ว
สำหรับการปฏิบัติการดับไฟป่าพรุควนเคร็งในปลายปี 2562 ที่ผ่านมานั้นมีการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องนานนับเดือน มีอากาศยานจากกองทัพอากาศ กองทัพบก เข้าร่วมให้ความช่วยเหลือด้วย “ซึ่งแหล่งข่าวภายในระบุว่างบประมาณที่ใช้จ่ายในการนำมาดับไฟป่าในครั้งนี้สูญเสียไปแล้วกว่า 300 ล้านบาท จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขงบประมาณที่ใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งยังคงถูกปิดบังกันจนถึงปัจจุบัน”
เหตุการณ์ไฟป่าสร้างความเสียหายมาอย่างต่อเนื่องนานนับเดือนในช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา จำเป็นต้องมีการระดมสรรพกำลังจากหลายหน่วยงานเข้าทำการบูรณาการควบคุม สร้างความเสียให้กับพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งไปกว่าหมื่นไร่ จนความทราบถึงฝ่าละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยในสถานการณ์ดังกล่าว และได้ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรีเดินทางมาเยี่ยมเจ้าหน้าที่ รวมทั้งได้ติดตามการควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมพระราชทานโรงครัวเคลื่อนที่ของกองทัพภาคที่ 4 เพื่อผลิตเสบียงอาหารให้กับกำลังเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาร่วมปฏิบัติการดับไฟป่าในทุกๆวัน
“วันนี้พอจะเข้าหน้าแล้งก็เรียกประชุมอีกเพื่อแก้ปัญหา แล้วที่ผ่านมาทำกันอย่างไร ผมอึดอัดแล้วก็หนักใจมานาน อยากให้สื่อมวลชนรับทราบบ้างซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ได้ช่วยกันแล้วก็เป็นบทเรียนให้ทางหน่วยงานราชการเขาต้องปฏิบัติ ผมอยากให้เป็นข่าวออกทีวีด้วยซ้ำไป เพราะจะทำให้ข้าราชการ ไม่ว่าตัวใหญ่ตัวเล็กจะได้กระตือรือร้นในเรื่องที่จะต้องทำ ไม่ใช่คุณเอาแต่เฉยอย่างเดียว เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทำเป็นธุระไม่ใช่ รับแต่เรื่องใต้โต๊ะที่ในหมู่บ้านผมมีอีกเยอะครับ ในเรื่องที่ไม่ชอบมาพากลแต่ไม่มีใครกล้าพูดไม่มีใครกล้าแสดงออก“
แต่ถึงอย่างไรหากเกิดภัยแล้งและเกิดกรณีไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็งอีกพวกเราก็ยังคงต้องช่วยกันดับต่อไป เราจะไม่ยอมแพ้ เพราะมันเป็นป่าของประเทศชาติไม่ใช่เป็นของผู้ใดผู้หนึ่ง ไอ้ส่วนที่มีเจ้าของก็ว่ากันไป แต่หากถามว่าผมจะเอาเครื่องพญานาคมาอีกหรือเปล่า ผมคงจะไม่แล้ว เว้นเสียแต่ทางหน่วยงานราชการเขาติดต่อกันไปเอง
