นครศรีธรรมราช: ไม่สนบาป ขอแค่ให้ได้เงิน คลิปชายวัยรุ่นเด็กเลียงวัวชน ขับ จยย.พ่วงข้าง เข้าวัดงัดฝาบาตรซึ่งใช้เป็นที่รับบุญจากชาวบ้าน ประจำวันเกิด ในศาลาพ่อท่านเพ็งจันทร์ สมภารวัดเก่าร้อยปีก่อนนี้ พระศักดิ์สิทธิ์ด้านวาจาสิทธิ์ และปาฏิหาริย์ที่ชาวบ้าน กล่าวขานกันมาว่าเดินบนผิวน้ำได้ ขโมยเงินบุญจากชาวบ้านหายไปอย่างไร้วี่แวว คาดไม่ต่ำกว่า 4-5 พันบาทวันที่ 15 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงาน ได้มีการแชร์ภาพคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บริเวณด้านหน้า ศาลาพ่อท่านเพ็งจันทร์ อดีตสมภาร หรือเจ้าอาวาสวัด หนองบัว ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ที่ชาวบ้านกราบไหว้บูชา หลังชายวัยรุ่น 1 คน ย่องเข้าไปขโมยเงินที่ชาวบ้านทำบุญไว้กับวัด ก่อนขับขี่รถ จยย.พ่วงข้างหายไปอย่างไร้วี่แวว
ในคลิปเผยให้เห็นถึงพฤติกรรมของชายวัยรุ่นอายุราวประมาณ 17-25 ปี สูงราวประมาณ 160-170 ซม.หัวเกรียน ผิวสีเข้มดำ สวมเสื้อยืดแบบลายพรางทหาร นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลดำ เดินเข้าไปภายในศาลาที่ประดิษฐานพระพุทธรูปจำลอง พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ พระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี หรือหลวงพ่อโต และพ่อท่านเพ็งจันทร์ โกนาโค โดยวัยรุ่นชายคนดังกล่าวได้ใช้มืองัดฝาบาตรพระประจำวันที่ตั้งเรียงติดฝาผนังศาลายึดไว้กับโครงเหล็กใส่กุญแจแน่นหนา ก่อนล้วงมือเข้าไปหยิบเงินที่ชาวบ้านคนเฒ่าคนแก่หยอดทำบุญเอาไว้ ใส่กระเป๋ากางเกงตนเองอย่างระมัดระวัง ซึ่งจะเห็นได้จากที่ชายหัวขโมยเดินเข้าเดินออกเพื่อดูว่ามีคนเดินมาในบริเวณดังกล่าวหรือไม่ หลังจากที่กวาดเงินออกจากบาตรรับบริจาค ก่อนออกได้ยกมือไหว้ รูปเหมือน พ่อท่านสมภารเพ็งจันทร์ อีกด้วย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 เวลา 16.00 น. ซึ่งต่อมาภายหลัง พระครูสุธรรม ปัญญาสาร หรือท่านแต้ว เจ้าอาวาสวัดองค์ปัจจุบัน ได้นำหลักฐานคลิปวีดีโอดังกล่าวมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อออกติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปพระครูสุธรรมให้ข้อมูลว่า ตนได้ทราบเรื่องเมื่อวันศุกร์ที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากได้เข้าไปไขกุญแจเพื่อต้องการจะนำเงินที่บริจาคออกมาหลังจากผ่านไปหลายเดือนแล้ว ซึ่งเมื่อเข้าไปก็พบกับความผิดปกติบาตรพระได้รับความเสียหาย ถูกเปิดอ้าออกหลายใบ ตรวจสอบดูพบว่าเงินที่ชาวบ้านทำบุญหายไป จึงเข้าไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งเอาไว้ทั่ววัด ผลปรากฏว่าพบตัวผู้ลงมือก่อเหตุตามคลิปภาพดังกล่าว จึงแจ้งตำรวจทราบ พร้อมนำคลิปวีดโอที่สามารถจับภาพลักษณะใบหน้ารูปพรรณสัณฐาน รวมถึงยานพาหนะที่ใช้หลบหนี ไว้ได้อย่างชัดเจน มอบให้กับ จนท. เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการติดตามตัวคนก่อเหตุมาลงโทษทางกฎหมายแต่ไม่ได้คาดหวังว่าทาง ตร.จะจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษได้ เนื่องจากหลังเกิดเหตุมีเพียง จนท.สายตรวจในพื้นที่เพียงไม่กี่นายเข้ามาในพื้นที่ และสอบถามข้อมูลเพียงไม่นานก็กลับ แถมทิ้งท้ายไว้กับตนว่า “ต้องรอให้นายสั่งก่อนว่าจะให้ทำอย่างไรต่อ”อย่างไรก็ตามคาดว่าผู้ก่อเหตุ น่าจะเป็นเด็กที่มีอาชีพเลี้ยงวัวชนในพื้นที่ละแวกตำบลใกล้เคียง ที่มีอาชีพเลี้ยงวัวชนกันอยู่ ไม่เป็นคนในพื้นที่อย่างแน่นอน นอกจากนี้กล้องวงจรปิดบริเวณลานวัดได้บันทึกภาพขณะวัยรุ่นผู้ก่อเหตุ ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่นำมาใช้เป็นยานพาหนะหลบหนีอกจากวัดไปในทันที ซึ่งภายในพ่วงข้างได้บรรทุกเครื่องตัดหญ้าแบบสะพายบ่ามาด้วย ที่ส่วนใหญ่มีไว้สำหรับตัดหญ้านำไปให้วัวชนกิน“ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าวว่า ระยะหลังทางวัดไม่ค่อยจะปลอดภัยมาก เนื่องจากมีกลุ่มวัยรุ่นแวะเวียนเข้ามาบ่อย ส่วนใหญ่มักเป็นเด็กติดยาเสพติด ที่ผ่านมาของในวัดหายบ่อย ทั้งพระพุทธรูป เงินทำบุญของชาวบ้าน ยันของเก่าแก่เก็บในวัด จนทางวัดต้องกำหนดเวลาเข้าออกโดยเฉพาะยามวิกาล และติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มให้ครอบคลุมบริเวณวัดมากกว่า 10 ตัว ยอมรับว่าเป็นที่หนักใจอย่างมาก ไม่คิดว่าจะมีผู้กล้าคิดลงมือในช่วงกลางวันแสกๆ และทั้งๆ ที่วัดก็มีกล้องวงจรปิดเต็มพื้นที่ไปหมดทุกจุด““จึงอยากร้องขอให้ทาง จนท.ตร.เร่งสืบหาข้อมูลติดตามตัวเด็กวัยรุ่นที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด และที่สำคัญ รู้สึกเป็นกังวลใจว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับตัววัยรุ่นผู้ก่อเหตุ เพราะเชื่อว่าคงจะไม่ทราบประวัติความศักดิ์สิทธิ์ของพ่อท่านสมภารเพ็งจันทร์ ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธาเลื่อมใส และบูชากันมาอย่างยาวนานกว่า 140 ปี โดยเฉพาะด้านวาจาสิทธิ์ ของพ่อท่านอย่างแน่นอน หากจนท.สามารถจับกุมได้อยากจะให้นำตัวมาทำพิธีขอขมาเสียก่อน หรือไม่หากทราบเรื่องแล้วก็ขอให้นำเงินมาคืนแล้วเข้ามอบตัวรับความผิดทางกฎหมาย ดีกว่ารอบทลงโทษจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษกราบไหว้นับถือและบูชากันมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งอาจจะไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต หรือเพี้ยนผิดปกติ บ้าเสียสติ ไปเลยก็ได้ เพราะหลายรายที่ต้องรับผลกรรมในลักษณะดังกล่าวเนื่องจากเข้ามาทำสิ่งไม่ดี หรือเข้ามาลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัด”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: