นครศรีธรรมราช:ผู้บังคับการตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราชเมินโรค’โควิด-19′ คนผิดต้องได้รับโทษทางกฎหมาย สั่งล่าตัวโจรใจบาป ขโมยเงินทำบุญวัดได้สำเร็จ เจ้าอาวาสวัดและญาติโยม “โล่งใจ” หลังคดีหายเงียบกว่า 2 อาทิตย์ คิดว่าตำรวจกลัวโควิด-19
พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เผยถึงคดีที่ชายวัยรุ่น อายุ 21ปี ขับขี่รถ จยย.พ่วงข้างเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ภายในวัดหนองบัว ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 11 มี.ค.63 ที่ผ่านมา
หลังได้รับการประสานงานขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือโดยตรงมาจากผู้สื่อข่าวที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้กับวัด โดยขอให้ช่วยติดตามเร่งรัดคดีดังกล่าว ซึ่งเป็นคดีที่พี่น้องประชาชนชาวบ้านต่างพากันกังวลใจในกระบวนการทางกฎหมายว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้หรือไม่ หลังเหตุการณ์ผ่านไปกว่า 2 อาทิตย์ จนทำให้ชาวบ้านทุกคนรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งๆที่ในวัดมีกล้องวงจรปิดมากมายและจับภาพคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน ประกอบกับช่วงเวลาที่เกิดเหตุเป็นเวลากลางวันแสกๆ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนชาวบ้านทุกคน
ซึ่งวานนี้ 27 มี.ค.63 ได้รับรายงานว่าสามารถจับกุมวัยรุ่นผู้ก่อเหตุมาได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่วันเดียวหลังจากที่ตนทราบเรื่อง โดยได้สั่งการเร่งรัดตรงไปที่ พ.ต.ท.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน รองผกก.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ให้นำกำลังออกตามล่าตัวผู้ก่อเหตุมาให้ได้โดยเร็วที่สุด
ล่าสุดเช้าวันนี้ 28 มี.ค.63 จนท.ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน รองผกก.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้ควบคุมตัว นายจักรินทร์ หรือเจ สิทธิรักษ์อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 4 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีลักทรัพย์เมื่อวันที่ 11 มี.ค.63 มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณศาลาที่ประดิษฐานรูปปั้นเหมือนอดีตเจ้าอาวาสวัด “พ่อท่านสมภารเพ็งจันทร์โกนาโค วาจาสิทธิ์” และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพกราบไหว้บูชา ภายในวัดหนองบัว หมู่ที่ 3 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจับกุมตัวได้วานนี้
พ.ต.ท.ธีรวุฒิ เปิดเผยว่าหลังได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ได้สั่งการต่อให้ จนท.ชุดสืบออกแกะรอยติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุในทันที พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อขออนุมัติศาลจังหวัดออกหมายจับ โดยเฉพาะภาพหลักฐานสำคัญที่ได้จากกล้องวงจรปิดในวัด ที่ทางเจ้าอาวาสมอบไว้ให้ และคำบอกเล่าของชาวบ้าน ซึ่งสามารถระบุและยืนยันไปถึงตัวผู้ก่อเหตุ คือนายจักรินทร์ หรือเจ สิทธิรักษ์ อายุ 21 ปีรายนี้ โดยทราบว่าหลังก่อเหตุได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไป จนบังเอิญว่าผู้ก่อเหตุคงเกิดความชะล่าใจได้หวลย้อนกลับเข้ามาในบ้าน จนท.จึงเข้าทำการจับกุมตัวในทันทีช่วงเย็นวานนี้ 27 มี.ค.63 ก่อนนำตัวไปสอบสวน
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่าได้แอบเข้าไปก่อเหตุลักขโมยเงินทำบุญที่อยู่ในบาตรพระประจำวัน ภายในศาลาอดีตสมภารในวัดดังกล่าวจริง ตามที่ปรากฏในคลิป ก่อนขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างหลบหนีออกจากวัดไป หลังสอบปากคำเสร็จสิ้น จึงได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทำการชี้จุดที่เกิดเหตุ ภายในวัด และเส้นทางหลบหนี เพื่อทำแผนฯประกอบคำรับสารภาพ และนำตัวกลับไปคุมขังเพื่อรอส่งสำนวนยื่นฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พระครูสุธรรม ปัญญาสาร เจ้าอาวาสวัด กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ทำคดีนี้จนสำเร็จลุล่วง โดยสามารถออกติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในที่สุด ซึ่งก่อนนี้อาตมารวมถึงญาติโยมชาวบ้านแวะเวียนเข้ามาสอบถามความคืบหน้าต่อเนื่องทุกวัน จนเกิดความกังวลใจ หลังระยะเวลาล่วงเลยผ่านไปกว่า 2 อาทิตย์ ยังจับคนร้ายไม่ได้ ซึ่งอาตมาภาพเองไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้ไปเกิดขึ้นที่ไหนกับใครหรือวัดไหนอีก โดยเฉพาะศาสนสถานสำคัญๆ วัดวาอาราม สถานที่ส่วนรวม รวมไปถึงบ้านเรือนประชาชน หากผู้ต้องหาลอยนวลความปลอดภัยในทุกที่ก็จะไม่เกิดขึ้น ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน และที่สำคัญยิ่งได้รับการปกป้องดูแลหวงแหนจากคนที่อยู่รายรอบวัด ต่างช่วยกันติดตามหาข้อมูลแจ้งเบาะแสช่วยเหลือการทำงานของ จนท.กันอย่างต่อเนื่อง จนสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ อาตมาและชาวบ้านทุกคนต่างก็รู้สึกดีใจและรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ขอเจริญพร และขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในครั้งนี้ด้วย พระครูสุธรรม กล่าว 
อ่านข่าวย้อนหลังได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้
?ไร้วี่แววจับกุม-วัยรุ่นเลี้ยง’วัวชน’งัดบาตรพระขโมยเงินบุญวัดยังลอยนวล ชาวบ้านเริ่มหน่าย – 77ข่าวเด็ด
