นครศรีธรรมราช หญิงม่ายชาว ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หอบลูกวัย 9 ขวบ ร้องสื่อ ตรวจสอบเงิน”กองทุนวันละบาท” วอน รรท.นายกฯอบต.เลิกอ้างระเบียบ ช่วยเมตตาคนจนเมื่อรับผลกระทบโควิดเพิ่ม ขาดส่ง 8 เดือน เข้าขอถอนกลับถูกปฏิเสธ ขาดการเป็นสมาชิกภาพ
นางสาว วันทา พรหมสุวรรณ์ อายุ 43ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/2 หมู่ 4 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมบุตรชายวัย 9 ขวบ ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน หลังถูกปฏิเสธการช่วยเหลือจากผู้บริหารสูงสุดของ อบต.ไชยมนตรี โดยมีนาย ยงยุทธ นาทะชัย ปลัดอบต.รักษาราชการแทนนายกฯ ดูแลบริหารอยู่ กรณีที่ตนเป็นสมาชิกฝากเงินไว้กับกองทุนสวัสดิการชุมชน ที่ทาง อบต.จัดตั้งขึ้น หลังฝากเงินไปแล้วแต่กลับถอนมาใช้ไม่ได้ โดยได้เข้าพบกับผู้บริหารเพื่อร้องขอให้ช่วยเมตตาเห็นอกเห็นใจและสงสาร 2 ชีวิตแม่ลูก ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะที่ย่ำแย่ในการดำรงค์ชีพ ซึ่งต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขาดรายได้ที่จะนำมาเลี้ยงดูปากท้องตนเองและลูก
นางสาววันทา เล่าว่า ตนเป็นสมาชิก “กองทุนสวัสดิการชุมชน”ต.ไชยมนตรี (กองทุนวันละบาท) มาตั้งแต่ปี 2557 โดยเปิดสมุดบัญชีเงินฝากไว้คนละเล่มกับลูก เนื่องจากตนมีฐานะยากจนแยกทางกับสามี ต้องเลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง รายได้ที่ผ่านมาไม่แน่นอนจากการทำงานจ้างและเงินจากการขายผักที่ปลูกเองข้างบ้าน จึงจำเป็นต้องวางแผนอนาคตอดออมเงินตามกำลัง เพื่ออนาคตของลูกที่กำลังอยู่ในวัยเรียนและเจริญเติบโต จึงเลือกฝากออมเงินกับกองทุนดังกล่าว เพราะเป็นเงินไม่มากแค่วันละ 1 บาท หวังเพื่อจะได้รับสิทธิ์และประโยชน์จากสวัสดิการกองทุน โดยเฉพาะยามเจ็บไข้ไม่สบาย ไม่ต้องเดือดร้อนค่ารักษาพยาบาล แถมเป็นเงินออมสะสมให้ลูก เผื่อตนเองต้องตาย ลูกจะได้มีเงินหมื่นไว้ใช้กิน
“ช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ส่งผลให้ตนขาดส่งเงินกองทุนนานติดต่อกันประมาณ 7-8เดือน จนถึงปัจจุบัน แต่ก็คิดตั้งใจเสมอว่าหากมีเงินก้อนเมื่อไหร่ก็จะนำไปส่งให้จนครบ และไม่คิดเลยว่าชีวิตจะต้องมาประสบกับสถานการณ์ที่เลวร้ายย่ำแย่ซ้ำเติมเข้าไปอีก จากผลการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เดิมรายได้ที่พอเลี้ยงชีพกลับขาดหายเพราะงานจ้างไม่มีปากท้อง 2 ชีวิต จึงสำคัญเพื่อจะต้องอยู่รอดต่อไป เลยนึกถึงเงินที่ตนฝากออมเอาไว้กับกองทุน ซึ่งมาคิดดูแล้วน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 5 พันบาท คงพอที่จะสามารถนำไปซื้อข้าวสารมาม่า,ปลากระป๋อง อาหารแห้งอื่นๆ ที่พอเก็บตุนไว้ประทังชีวิตช่วงระยะเวลาวิกฤตของโรคระบาดนี้ได้ จึงตัดสินใจที่จะนำเงินดังกล่าวออกมาใช้จ่ายก่อนที่ทุกอย่างจะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ โดยตนไปพบกับอดีตผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการกองทุน พร้อมพูดคุยขอถอนเงิน แต่กลับได้คำตอบว่า ตนเองได้ขาดสภาพการเป็นสมาชิกแล้วไม่สามารถถอนเงินได้ เพราะขาดส่งไปนานกว่า 3 เดือน ตามที่ระเบียบกำหนดไว้ว่า “หากผู้ใดขาดส่งเงินเกิน 3เดือน จะไม่ได้รับสวัสดิการใดๆ เลย” แต่ที่ตนทราบมาก่อนหน้านี้ว่าเคยมีลูกบ้านรายอื่นที่เป็นสมาชิกอยู่ เคยขาดส่งเงินไปนานนับปี แต่กลับได้รับการช่วยเหลือจนสามารถส่งเงินต่อไปได้อีก“
เลยมุ่งหน้าเดินทางไปพบกับนายกฯ อบต.โดยตรง พร้อมกับลูกชาย เพื่อขอความช่วยเหลือ หวังว่าคงจะได้รับการช่วยเหลืออย่างแน่นอน โดยนำหลักฐานสมุดบัญชีเงินฝากติดตัวไปด้วย จนได้เข้าพบและพูดคุยอธิบายถึงเหตุผลความเดือดร้อนจำเป็นให้กับนายยงยุทธ นาทะชัย รรท.นายกฯ รับฟัง พร้อมทั้งขอความเห็นใจ แต่สุดท้ายความหวังกลายเป็นหมดหวัง เมื่อได้คำตอบที่ไม่ต่างจากเดิม คือ “ไม่สามารถถอนเงินดังกล่าวให้ได้” แต่ช่วยให้ฝากได้รับสวัสดิการดังเดิมได้ เท่าแต่ถอนมาใช้ไม่ได้ เนื่องจากตนทำผิดระเบียบของทางกองทุนไปแล้ว
จึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนให้ช่วยถามหาภาวะการเป็นผู้นำ การทำหน้าที่ข้าราชการที่ดี การเข้ามาบริหารงานท้องถิ่น ดูแลแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน มีการมุ่งเน้นเพื่อต้องบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพี้น้องประชาชน แต่ยามที่ชาวบ้านเดือดร้อนหนักในขณะนี้ ผู้บริหารกลับยกระเบียบที่จัดตั้งขึ้นเองมาอ้าง ทั้งๆ ที่ตนมาขอเงินที่ตนเองฝากเอาไว้คืน ซึ่งทุกบาททุกสตางค์ได้มาจากความเพียรพยายามหวังฝากเอาไว้ให้ลูกยามตัวตาย แต่กลับไม่สามารถนำมาใช้ได้
พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่มีอำนาจเข้าตรวจสอบเงินกองทุนสวัสดิการดังกล่าวทั้งระบบ อาจจะมีการทุจริตคอรัปชั่นกันภายใน เนื่องจากทราบมาว่าก่อนหน้านี้ไม่นานเคยมีชาวบ้านไปทำเรื่องขอถอนเงินที่ฝากไว้ในกองทุนดังกล่าว แต่นานนับสัปดาห์เงินนั้นก็ยังไม่ได้รับ หวั่นเกรงว่าเงินกองทุนที่ชาวบ้านทั้งตำบล อดออมฝากเอาไว้จะเกิดปัญหาซ้ำรอยอย่างเงิน “กองทุนสัจจะออมทรัพย์” ที่หายไปกว่า 3 ล้านบาทของชาวบ้านหมู่ 3 ต.ไชยมนตรี กว่า 300 คน ที่ฝากไว้แต่กลับไม่ได้ใช้ เพราะมีการทุจริตกันทั้งระบบโดยคณะกรรมการผู้บริหาร ซึ่งชาวบ้านทุกคนต่างรอคอยการดำเนินคดีเอาผิดกับผู้กระทำความผิดมาตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 61 จนปัจจบัน คดีความก็ยังคงเงียบหายไป หวังเพียงว่าจะได้เงินคืนกลับมาใช้บ้างเล็กน้อยก็ยังดี
ติดตามข่าว”กองทุนสัจจะออมทรัพย์เพื่อการผลิต”ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ย้อนหลังทั้งหมดได้ที่ ลิงก์ข่าวด้านล่างนี้
ผู้เสียหาย “กองทุนสัจจะออมทรัพย์”นัดรวมตัวทวงถาม นอภ.เมืองคอน พร้อมยื่นหนังสือ ผบ.มทบ.41 – 77 ข่าวเด็ด
!ผุดเพิ่ม “สัจจะออมทรัพย์เมืองคอน” โร่ร้องสื่อช่วย หลัง กก.อ้างไม่มีเงินจ่าย – 77 ข่าวเด็ด
ทหาร อึ้ง! ปธ.”กองทุนออมทรัพย์โมคลาน” พลิกลิ้น กลางวงไกล่เกลี่ย – 77 ข่าวเด็ด
