นครศรีธรรมราช:“BEDO สัญจร 4 ภาค 2018 (ภาคกลาง)”จัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการ สินค้าดีทั่วทุกภูมิภาคเข้าร่วมกว่า 500 บูทสินค้า กระแสตอบรับดีเยี่ยม คนเที่ยวงานนับหมื่น มุ่งเน้นสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน
ที่ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานครฯ และ ห้องประชุม บีบี 202 และ บีบี 203 โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทาราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ ได้มีการจัดกิจกรรมงานออกร้านจำหน่ายสินค้าของดี 4 ภาค ภายใต้แนวคิด “เศรษฐกิจชีวภาพ อนาคตเศรษฐกิจไทย” “BEDO สัญจร 4 ภาค 2018 (ภาคกลาง)”เพื่อเป็นการสนับสนุนส่งเสริมผลิตภัณฑ์จากฐานทรัพยากรชีวภาพภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยให้ผู้ประกอบการนำผลิตภัณฑ์ของดีที่เกิดจากชุมชนในแต่ละภูมิภาคมาจัดแสดงและจำหน่ายให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครฯได้ ช็อป ชิม เที่ยว กันอย่างถึงที่ โดยไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงต่างจังหวัด อาทิ ขนมจู้จุน ขนมโบราณของชาวปักษ์ใต้ที่คนส่วนใหญ่แทบที่จะไม่เคยเห็นและรู้จักชื่อ ซึ่งเป็นขนมสำคัญ 1 ใน 5 อย่างที่ต้องนำไปจัดหมรับ ในช่วงเทศกาลบุญสารทเดือนสิบที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หรือแม้แต่ภูมิปัญญาการแปรรูป “ผลไม้ กลับชาติ” การทำสบู่จากน้ำมันรำข้าวสังห์หยด สบู่จากเปลือกมังคุด บ้านคีรีวง นครศรีธรรมราช เป็นต้น อีกทั้งยังช่วยพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน และเศรษฐกิจของประเทศให้เกิดความเข้มแข็งและอย่างยั่งยืนตลอดไป ในงานมีสินค้ามากมายหลากหลายรายการ รวมไปถึง อาหาร เสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเป็นผู้ผลิตขึ้น และสินค้า otop มากกว่า 500 บูท ซึ่งได้รับความสนอกสนใจจากประชาชนอย่าล้นหลาม ตลอดช่วงการจัดงาน ระหว่างวันที่ 10 – 12 กันยายน 2561
ในพิธีเปิดได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.พิทักษ์ จันทร์เจริญ ประธานกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO เดินทางมาเป็นประธาน พร้อมกับนำทัพสื่อมวลชนจากทุกภูมิภาคที่ได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมเพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของดี 4 ภาค โปรโมทผลิตภัณฑ์สินค้าของดี ให้ประชาชนได้รับรู้ด้วยตนเอง
ผศ.ดร.พิทักษ์ กล่าวว่า หลังจากที่ BEDO ได้จัดงาน BEDO สัญจร 4 ภาค 2018 ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไปเมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมาซึ่งการจัดงานได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ของดีที่มีกระจายอยู่ตามชุมชน ได้มีการต่อยอดขยายตัวทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทาง BEDO นั้นได้มุ่งมั่นที่จะจัดกิจกรรมดีๆเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้ได้มาจัดในพื้นที่ภาคกลางให้ ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครฯ ได้สัมผัส ชิม ลิ้มลอง ช็อปปิ้งกันอย่างสะดวกสบาย
BEDO สัญจร เป็นไปตามกำหนดยุทธศาสตร์ในการดำเนินงานที่มุ่งเน้นการทำงานในระดับพื้นที่ใน 6 ภูมินิเวศอันประกอบด้วย ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เพื่อให้เกิดการรับรู้ เพื่อสร้างการรับรู้ ความตระหนัก และสร้างการมีส่วนร่วมในการใช้ประโยชน์ และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ อันจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นในทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เยาวชน ชุมชน ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป และยังเป็นสร้างโอกาสให้กับชุมชนและผู้ประกอบการ ในการนำผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงและจำหน่าย ตลอดจน การเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างกลุ่ม องค์กร หน่วยงาน และภาคีเครือข่ายชุมชนต่างๆ การสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย และเปลี่ยนองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานชีวภาพที่ยั่งยืนในระดับภูมิภาคอีกด้วย
สำหรับปีนี้ BEDO wfhมีเป้าหมายการดำเนินงานใน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชนท้องถิ่น โดยใช้ฐานทรัพยากรในท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่การสร้างรายได้และพัฒนาต่อยอดในเชิงเศรษฐกิจ การค้นหาสืบค้นฐานทรัพยากรที่มีคุณค่าพร้อมกับการจดแจ้ง และจดบันทึกร่วมกับการพิสูจน์ทราบว่าฐานทรัพยากรเหล่านี้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ และภายใต้เงื่อนไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และคุ้มครองผลงานสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่เป็นผลมาจากการพัฒนาต่อยอด รวมทั้งฐานทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพให้เป็นสมบัติของชุมชนและของชาติ โดย BEDO มีการทำงานร่วมกับพี่น้องใน ภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง มีภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และมีความเข้มแข็งของการทำงานแบบบูรณาการ ทั้งภาครัฐและเอกชน
นอกจากการส่งเสริมสนับสนุนด้านเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพแล้ว BEDO ยังมีภารกิจสำคัญที่เกี่ยวข้องเพื่อปกป้องทรัพยากรชีวภาพของประเทศ อาทิ การรวบรวมฐานข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่น การส่งเสริมการคุ้มครองทรัพยากรของประเทศ เป็นต้น โดย BEDO มีความคาดหวังจากการจัดงานในครั้งนี้เพื่อที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความสนใจ สร้างแรงบันดาลใจและเป็นพลังอีกหนึ่งส่วนในการสร้างการมีส่วนร่วมในการรักษาและพัฒนาทรัพยากรด้านชีวภาพ การใช้ประโยชน์ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์
ทั้งนี้ BEDO ได้เข้าไปสนับสนุนวิสาหกิจชุมชน จนได้รับตราส่งเสริม BioEconomy ที่มีจุดเด่นและความแตกต่างจากสินค้าทั่วไปด้วยหลัก 3 ประการ คือ 1.การใช้ทรัพยากรชีวภาพในชุมชนเป็นองค์ประกอบ 2.การผลิตที่เป็นมิตรกับความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity friendly processes) 3.ปันรายได้ไปฟื้นฟูและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ (Future of the Origin) ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ สร้างภายใต้บนจุดแข็งของประเทศ คือความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งถูกนำมาใช้ให้กลายเป็นความได้เปรียบเชิงแข่งขัน สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเพื่อการไปสู่ Thailand 4.0 ผศ.ดร.พิทักษ์ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: