นครศรีธรรมราช:ที่ปรึกษาพ่อเมืองคอน แถลงข่าวแจงเอกชนปีนนั่งร้านองค์พระบรมธาตุฯเมืองคอน เหตุขึ้นตรวจสอบรายละเอียดเตรียมจัดงาน”ไลท์แอนด์ซาวด์”สมโภชองค์พระธาตุครั้งใหญ่ รอรับการขึ้นทะเบียน”มรดกโลก” พร้อมประกาศขอลาออกรับผิดชอบสังคม
กลายเป็นเรื่องใหญ่โตบานปลายตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ซึ่งค่อนข้างมีอิทธิพลมากมายในสังคมปัจจุบัน สามารถสรรสร้างสิ่งดีๆขึ้นได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถทำลายสิ่งต่างๆได้อย่างย่อยยับช่วงพริบตาเดียวได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับกรณีที่เป็นเรื่องใหญ่โตโด่งดังมากในสังคมออนไล์ และเป็นที่สนอกสนใจของคนในจังหวัดนครศรีธรรมราช จนท้ายที่สุดถึงขั้นประกาศลาออกจากตำแหน่งหน้าที่ที่ทำอยู่ พร้อมทั้งแถลงข่าวกราบขอโทษพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชทุกคน และจะขอรับผิดชอบเพียงผู้เดียว
เหตุก็มาจากที่นายสุรินทร์ สิริชยานนท์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ประสาน 10 ทิศ บุคคลสำคัญที่เดินเคียงข้างนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัด มาเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี ไม่ว่าปัญหาใดๆรวมไปถึงการติดต่อประสานงานในทุกหน่วยงานทุกภาคส่วน นายสุรินทร์ก็สามารถดำเนินการให้ประสบผลสำเร็จได้อย่างง่ายดาย ด้วยความรู้ความสามารถประสบการณ์ที่มี รวมถึงการเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับนับถือจากวงการธุรกิจรวมคนนครศรีธรรมราชอย่างกว้างขวาง
ข่าวน่าสนใจ:
ภายหลังเพจเฟสบุ๊ค“นายหมา เฝ้าบ้าน” ได้นำเสนอภาพบุคคลที่มีชื่อเสียงในระดับจังหวัดนำคณะบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นไปบนนั่งร้าน ชมการบูรณะปฏิสังขรณ์และติดตั้งกลีบบัวคว่ำบัวหงายขององค์พระบรมธาตุเจดีย์ นครศรีธรรมราช รวม 6 คน 1 ในนั้น มีนายสุรินทร์ สิริชยานนท์ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯรวมอยู่ด้วย ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม จนกลายเป็นเรื่องใหญ่โตบานปลายเมื่อสังคมออนไลน์ได้ มีการประณามตำหนิติเตียน และวิพากษ์วิจารณ์ กันอย่างกว้างขวาง โดยเพจดังกล่าวได้มีการจี้ทวงถามต่อผู้ว่าราชการจังหวัดจะรับผิดชอบอย่างไร กับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างต่อเนื่อง โดยมีการตั้งคำถามว่า “บุคคลเหล่านั้นถืออภิสิทธิ์อะไร ที่สามารถกระทำเช่นนั้นได้”
ล่าสุดนายสุรินทร์ สิริชยานนท์ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯได้ออกมาแสดงสปิริตต่อสังคมโดยการขอรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วยการขอยุติบทบาทในตำแหน่งหน้าที่ที่ทำอยู่ทั้งหมดของทางจังหวัด และขอลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อยุติปัญหา และไม่ให้มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของทางจังหวัด
นายสุรินทร์ได้กล่าวถึงภาพเหตุการณ์ในวันนั้นวันที่ 26 ก.ย.61 หลังเสร็จสิ้นจากพิธีอัญเชิญกลีบบัวทองคำกลีบสุดท้ายที่จารึกอักษรพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร.ขึ้นประดิษฐานบนปูนปั้นว่า ตนพร้อมกับคณะสภาอุตสาหกรรมจังหวัดและผู้บริหารมวย “Thai Fight” ซึ่งอยู่ร่วมในพิธีด้วย ได้ขึ้นไปบนนั่งร้านไปเพื่อตรวจสอบในรายละเอียดของการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการแสดง”ไลน์แอนด์ซาวด์”ที่จะเกิดขึ้นในงานสมโภชเฉลิมฉลองพระบรมธาตุครั้งใหญ่หลังบูรณะแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 62 พร้อมกับรอรับการพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก”ยูเนสโก” ก่อนที่จะมีการนำนั่งร้านออกจากตัวองค์พระธาตุ และทำการกราบไหว้สักการะด้วยความศรัทธาเลื่อมใส ไม่ได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่นแต่อย่างใด ส่วนประเด็นภาพถ่ายของผู้บริหารมวย”Thai Fight”นั่งกอดกระเป๋าถือส่วนตัวอยู่นั้น สังคมมองว่านำกระเป๋าเข้าไปยังภายในเขตห่วงห้ามได้อย่างไร ขอชี้แจงว่าได้ทำการกราบไหว้บริเวณด้านล่างโดยตั้งกระเป๋าไว้ด้านข้างตามที่ปรากฎในภาพ
ไม่ได้นำขึ้นไปบริเวณด้านบนยอดพระธาตุแต่อย่างใด สาเหตุจากกลัวความสูง
“ในการจัดงานสมโภชเฉลิมฉลองนั้น จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งภาคเอกชนที่ศรัทธาต่อองค์พระบรมธาตุเจดีย์ต่างช่วยกันบริจาคเงินให้กับจังหวัด เพื่อนำไปจัดงานสมโภช โดยจะไม่นำงบประมาณของทางราชการมาใช้ และที่ผ่านมาทางผู้บริหารมวย”Thai Fight”ได้มีการจัดการแข่งขันชกมวย “Thai Fight”การกุศลขึ้นและนำรายได้ส่วนหนึ่งมามอบให้กับทางจังหวัดด้วยความเลื่อมใสศรัทธา และถือเป็นผู้บริจาครายใหญ่
“ผมกราบขอโทษพี่น้องประชาชนชาวนครศรีธรรมราชเป็นอย่างมากกับเหตุที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาผมมีความตั้งใจทำสิ่งดีๆให้กับบ้านเมือง ให้กับจังหวัด โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ที่ผ่านมาผมทำหน้าที่จนลืมธุรกิจส่วนตัว เพียงเพราะอยากให้บ้านเรามีการพัฒนา เพื่อให้เรื่องนี้ยุติลง และไม่ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัด ให้จังหวัดได้เดินหน้าต่อไป ผมจึงขอรับผิดชอบด้วยการประกาศขอลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาผู้ว่าฯตั้งแต่นี้เป็นต้นไป นายสุรินทร์กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: