นครศรีธรรมราช : คนร้ายบุกยิงตำรวจ ปทส.ดับคาบ้านพัก ก่อนเผ่นหลบหนี คาดปมขัดแย้งส่วนตัว-เรื่องงาน รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่ 
วันที่ 8 ตุลาคม 2563 พ.ต.อ.มณเฑียร เบ้าทอง ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เผยว่า เมื่อคืนวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุ คนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยิงตำรวจเสียชีวิตที่หน้าบ้านเลขที่ 34/1 ซอยห้วยหูแร้ง ริมถนนสายนครศรีธรรมราช-พรหมคีรี หมู่ 7 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย กำลังตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจกองวิทยาการ จ.นครศรีธรรมราช แพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลท่างิ้ว
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ริมถนน บริเวณพื้นตรงหน้าประตูบ้านพบศพ ดาบตำรวจสุรเชษฐ์ นาคนาศักดิ์ อายุ 44 ปี ผบ.หมู่ กองกำกับการ 5 กองบังคับการ ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) เจ้าของบ้าน นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ในชุดเสื้อยืดคอกลมลายดำขาว นุ่งกางเกงยีนส์สีน้ำเงินขาสามส่วน สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่ใต้ราวนมขวา 1นัด เป็นรูกว้าง กระสุนเจาะลำตัวดันไปตุงอยู่ที่บริเวณด้านหลังของไหล่ซ้าย
จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบไม่พบหลักฐานอื่นใด โดยเฉพาะปลอกกระสุนปืนลูกซองที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ พบเพียงปลอกกระสุนขนาด 11 มม. จำนวน 2 ปลอกตกอยู่ในพงหญ้าหน้าบ้าน คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิตเอง เนื่องจากเป็นกระสุนชนิดและ ขนาดเดียวกันกับอาวุธปืนที่ พบภายในห้องนอน ที่ ด.ต.สุรเชษฐ์ใช้ประจำกายตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้เก็บนำไปเป็นหลักฐานและนำไปตรวจสอบเทียบขนาดอีกครั้ง
ห่างจากศพไปประมาณ 3 เมตร บริเวณด้านหน้าและด้านข้างของตัวบ้าน พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กล-9051 และรถจักรยานยต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง ทะเบียน ขคย-56 นครศรีธรรมราช ของด.ต.สุรเชษฐ์ จอดอยู่
ภายในศาลาหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่พบถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ยังทานไม่หมด 1 ถ้วย และน้ำดื่ม 1 ขวด ซองบุหรี่อีกครึ่งซอง วางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งสันนิษฐานว่า ด.ต.สุรเชษฐ์ได้นั่งรับประทานอยู่ก่อนจะถูกยิง
จากการสอบสวนทราบว่า ด.ต.สุรเชษฐ์ นอกจากเป็นตำรวจในสังกัด ปทส.ประจำพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช แล้วยังเป็นหลานชายแท้ ๆของ นักการเมืองท้องถิ่นระดับบริหาร ผู้มีอิทธิพลชื่อเสียงและกว้างขวางในพื้นที่ ตำบล ท่างิ้ว อีกด้วย โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่ ด.ต.สุรเชษฐ์ กำลังนั่งทานบะหมี่อยู่นั้น คนร้ายซึ่งน่าจะเป็นคนที่รู้จักกันดี ได้เข้ามานั่งพูดคุยเพื่อตกลงธุรกิจบางอย่างกับ ด.ต.สุรเชษฐ์ แต่คงตกลงกันไมได้ โดยคาดว่า ด.ต.สุรเชษฐ์ คงลุกเดินหนีเข้าบ้าน ทำให้คนร้ายรู้สึกไม่พอใจจึงชักอาวุธปืนลูกซองที่พกติดตัวมา ยิงเข้าใส่ ด.ต.สุรเชษฐ์ ในระยะประชิด 1 นัด กระสุนเจาะทะลุหน้าอกของ ด.ต.สุรเชษฐ์ จนล้มลงนอนกองกับพื้นเสียชีวิตทันที และหลบหนีหายไปกับความมืด
ส่วนสาเหตุการสังหารนั้น ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่สันนิษฐานไว้ 2 ประเด็น คือ ขัดแย้งเรื่องส่วนตัวในธุรกิจบางอย่างกับคนสนิทบางคนในพื้นที่ หรือขัดแย้งในเรื่องหน้าที่การงาน ที่ผู้ตายปฏิบัติหน้าที่ในปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ โดยทางตำรวจจะเร่งสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้เมื่อช่วงเวลา 14.00น.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ ผบช.ภ.8 ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีด้วยตนเอง และในวันพรุ่งนี้ 9 ตุลาคม 2563 เวลา 09.00 น. รอง ผบ.ตร จะลงมาติดตามความคืบหน้าของคดีด้วยเช่นกัน
