นครศรีธรรมราช : อดีต นายก อบจ.เมืองคอน นายพิชัย บุณยเกียรติ เปิดโต๊ะแถลงข่าวลงสมัครนายก อบจ. ถือฤกษ์ 10 โมง ผู้ใหญ่ดูให้ พร้อมงัดความบริสุทธิ์ อ้อน ปชช.เทคะแนนให้อีกครั้ง หลังใช้เวลาพิสูจน์มานานกว่า 7 ปี ล้างมลทินที่ถูก มอบให้
ที่ศูนย์ประสานงาน “ทีมทำทันที” สถาบันรัชต์ภาคย์ ถนนเทวบุรี ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายพิชัย บุณยเกียรติ หัวหน้าทีม “ทำทันที” และว่าที่ผู้สมัคร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช, ดร.ชัยวุฑ ตรึกตรอง ผู้บริหารสถาบันรัชต์ภาคย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมทีมบริหารและผู้สนับสนุน ได้ร่วมกันแถลงข่าวความพร้อมการลงสมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.นครศรีธรรมราช โดยยืนยันว่า จะเดินเข้าสู่สนามแข่งขันทางการเมือง เพื่อคว้าชัยในตำแหน่ง นายก อบจ.มาให้ได้ โดยจะเข้ายื่นเอกสารลงสมัคร ในเวลา 10.00 น. ตามฤกษ์งามยามดีที่ผู้หลักผู้ใหญ่กำหนดให้ไว้
ชาวนครศรีธรรมราชจะมีอีกหนึ่งตัวเลือก เพื่อนำไปพิจารณาถึงคุณสมบัติและความเหมาะสมของผู้ที่จะเข้ามาดูแลจังหวัดนครศรีธรรมราชในอนาคต ตนเองได้พิสูจน์ให้พี่น้องประชาชนทุกคนได้เห็นแล้วว่า เส้นทางการเมืองที่ผ่านมา ไม่เคยมีอะไรแปดเปื้อน ตั้งแต่สมัยยังไม่มีการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น จนยกระดับขึ้นเป็นองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก็ลงสมัครเป็น ส.อบจ. และได้มาเป็นประธานสภาจังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนเป็นรองนายก อบจ.นครศรีธรรมราช และเป็น ส.ว.นครศรีธรรมราช อีก 1 สมัย
กระทั่งต้นปี 2557 ได้ลงสมัครเข้าชิงเก้าอี้ นายก อบจ. กับ นายมาโนช เสนพงศ์ แต่กลับได้รับความพ่ายแพ้ด้วยวิชามาร จากฝ่ายตรงข้าม โดยผลคะแนนที่ได้มาถึง 220,000 คะแนน แต่กลายเป็นบัตรเสียกว่า 10,000 คะแนน ความไว้วางใจของพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชที่มอบให้
นำไปสู่การร้องเรียนไปยัง กกต.ให้ตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.และ ปปช.ตัดสินให้ใบแดงผู้ชนะจนต้องพ้นจากตำแหน่ง และนำมาสู่การดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา
ด้วยระยะเวลากว่า 7 ปี ที่ได้ต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความถูกต้องเป็นธรรม จึงไม่มีเหตุผลใดที่ตนเองจะปฏิเสธความตั้งใจที่จะเข้ามาพัฒนาเมืองนครฯ ให้ดีขึ้นด้วยมือที่สะอาดและใจที่บริสุทธิ์ คิดทำเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้อยู่ดีกินดีทุกคน นายพิชัย กล่าว
สำหรับบรรยากาศการหาเสียงโดยทั่วไปใน จ.นครศรีธรรมราช ภายหลังการเปิดลงสมัคร นายก และ ส.อบจ. มีการหาเสียงทุกรูปแบบ ทั้งในสื่อโซเชียล รถแห่ วิทยุ ทีวี ป้ายโฆษณาประเภทต่าง ๆ รวมถึงการเดินเท้าเคาะประตูบ้าน พบปะผู้นำชุมชน อ้อนขอคะแนนเสียง เป็นต้น
ทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดนครศรีธรรมราช อยู่ในช่วงขาขึ้น หลังจากซบเซาในช่วงโควิด-19 โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัด ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
นางสาวนุชนภางค์ ลิ่มดุลไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีการเพิ่มหน่วยเลือกตั้งเกือบ 200 หน่วย จากเดิม 2,013 หน่วย เป็น 2,208 หน่วย มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2563 ประมาณ 1,200,000 คน และคาดว่าจะมีผู้เข้ามาใช้สิทธิ์มากถึง 75% ของประชากรทั้งหมดงง
