นครศรีธรรมราช : คุณยายวัย 79 ปี เส้นเลือดในสมองแตกตาย หลังเครียดจัดอยู่ดูแลหลานชายถูกรถชนป่วยติดเตียงแรมปี หมดเงินนับล้านบาท คู่กรณีไม่เหลียวแลรับผิดชอบ กฎหมายก็ยังเอาผิดไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เป็นฝ่ายถูก
ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 7 ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ได้ร้องผ่านสื่อเพื่อขอให้ช่วยนำเสนอเรื่องราวของนางจัด เจรณาเทพ หรือคุณยายเอียด อายุ 79 ปี ที่ต้องมาเสียชีวิตลงด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก เนื่องจากเกิดความเครียดสะสมตลอด 1 ปีเต็มที่ผ่านมา หลังคดีความของหลานชายที่ประสบอุบัติเหตุรถชนเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ปี 2562 จนเป็นชายผู้พิการนอนติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ไม่มีความคืบหน้า ทางคู่กรณีไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยลูกหลานและญาติ ๆ ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลไว้ที่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 7 ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช และจะทำการฌาปนกิจในวันพฤหัสบดีที่ 3 ธ.ค.63 ณ เมรุ สำนักสงฆ์คลองแคว ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช
นางประจวบ ดอกบัว อายุ 60 ปี ลูกของผู้เสียชีวิตพร้อมด้วยลูก ๆ หลาน ๆ เล่าถึงสาเหตุที่ทำให้คุณยายเอียด ถึงกับเสียชีวิต เนื่องจากเกิดภาวะความเครียดอย่างหนัก จนเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 27 พ.ย.63 ที่ผ่านมา ในเรื่องคดีความของหลานชายคือนายอนุวัต หรือบอล ดอกบัว อายุ 32 ปี หลังประสบอุบัติเหตุรถชนจนเป็นผู้พิการทุพพลภาพ นอนป่วยติดเตียงรักษาตัวมาตลอด 1 ปีเต็มที่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 7 ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี ไม่สามารถช่วยเหลือตนเอง หมดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาไปไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท แต่กลับไม่เคยได้รับการเยียวยาหรือช่วยเหลือใด ๆ เลยจากทางคู่กรณีนับตั้งแต่วันเกิดเหตุ
อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ เวลา 20.54 น.ของวันที่ 6 ธ.ค. 62 ของที่ผ่านมา ตามบันทึกประจำวันของ พ.ต.ท.ธนาธร พันธุ์ชู พนง. สส. สภ.เมืองนครศรีธรรมราช หลังได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ บริเวณบนถนนสาย นครศรีฯ-พรหมคีรี หมู่ที่ 7 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พบรถยนต์เก๋งยี้ห้อโตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน กพ 8148 นครศรีธรรมราช มี น.ส.กาญจนาธิป พลายด้วง อายุ 21 ปี ผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นฝ่ายผิดขับรถข้ามเลนเข้ามาเฉี่ยวชนเข้ากับรถ จยย.พ่วงข้างที่นายอนุวัต ดอกบัว อายุ 31 ปี ขับขี่มาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช นานกว่า 4 เดือน ก่อนมารักษาตัวต่อที่บ้าน
หลังเกิดเหตุทางญาติของผู้บาดเจ็บได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.กาญจนาธิป ผู้ชน เนื่องจากไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใด ๆเลยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้แต่การเข้าถามไถ่อาการของผู้บาดเจ็บ สุดท้ายนายอนุวัต ต้องกลายเป็นผู้ป่วยนอนติดเตียงมาจนถึงปัจจุบัน ที่ผ่านมาคดีความกลับไม่มีความคืบหน้าใด ๆ แม้ทาง จนท.ตร.จะใช้ความพยายามอยู่หลายครั้งในการเรียกคู่กรณีเข้ามาไกล่เกลี่ย แต่ก็ไม่เป็นผล ล่าสุดทาง พนง.สส.ได้ส่งสำนวนให้กับพนักงานอัยการศาล เพื่อดำเนินการฟ้องร้องคดี โดยมี น.ส.พัดชรินทร์ ดอกบัว อายุ 29 ปี ลูกพี่ลูกน้องของนายอนุวัต เป็นผู้ฟ้องร้อง จนกระทั่งทางญาติของ น.ส.กาญจนาธิป ได้ติดต่อเข้าพูดคุยเพื่อไกล่เกลี่ย โดยจะมอบเงินช่วยเหลือให้ในจำนวน 2 หมื่นบาท แต่ทางญาติของผู้ป่วยขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และขอเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ให้ทางศาลเป็นผู้พิจารณาคดี
กว่า 1 ปีเต็มที่นายอนุวัต จะต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดและชอกช้ำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงญาติพี่น้องทุกคน ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็นที่ต้องคอยเห็นนายอนุวัตนอนป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทุกส่วนของร่างกายไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือทำสิ่งใดได้เลย โดยคุณยายเอียดที่คอยดูแลอยู่อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เคราะห์ร้ายที่เกิดขึ้นทำให้ทุกอย่างต้องพังลง ทั้งเรื่องของอนาคตครอบครัว ความสุข และหน้าที่การงานที่ดี ซึ่งทุกคนหวังเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะสามารถช่วยให้ความสุขเหล่านั้นกลับเข้ามาในชีวิตครอบครัวได้อีกครั้ง แต่เป็นได้เพียงความฝันเท่านั้น และสิ่งที่เป็นความโศกเศร้าเสียใจอย่างหนักขึ้นไปอีก เมื่อคุณยายเอียดต้องมาจากพวกเราไปอีกคน ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีโรคภัยไข้เจ็บใด ๆ แม้จะมีอายุถึง 79 ปีแล้วก็ตาม ทางครอบครัวและญาติ ๆ ขอเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายเห็นอกเห็นใจ ดำเนินคดีด้วยความเที่ยงธรรมและเหมาะสม ความสูญเสียที่เกิดขึ้นมันมีค่ามากมายกว่าเงินทอง มันคือความสูญเสียที่ไม่สามารถเรียกกลับคืนมาให้เป็นเหมือนเดิมได้ โดยเฉพาะภาพภาวะจิตใจของทุกคนในครอบครัวที่เป็นอยู่ในขณะนี้
