นครศรีธรรมราช : ญาติร้องผ่านสื่อ ขอให้หลานชายเข้ามอบตัว โทษหนักจะกายเป็นเบา พร้อมขอเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าใช้ความรุนแรง ให้หลานชายได้รับโทษทางกฎหมาย
จากกรณีเหตุคนร้ายชื่อนายเรืองศักดิ์ เรือนแก้ว อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 3 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด ยิงใส่รถเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ จนเป็นเหตุให้ ร.ต.ท.ทรงฤทธิ์ หนูสาย และนายปรีชา ชาวนา ผญบ.หมู่ 6 ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ได้รับบาดเจ็บ ขณะปฏิบัติหน้าที่ ก่อนหลบหนีหายไปพร้อมภรรยาและลูกน้อยที่เพิ่งเกิดได้เพียง 13 วัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ม.ค.64 ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุ จนท.ตร.ได้ระดมกำลังไล่ล่าเร่งติดตาม พร้อมขออำนาจศาลจังหวัดกระบี่อนุมัติหมายจับผู้ต้องหารายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในหลายข้อหาหนัก โดยเฉพาะข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน จนถึงขณะนี้นายเรืองศักดิ์ ผู้ก่อเหตุยังคงอยู่ระหว่างการหลบหนี
ข่าวน่าสนใจ:
- "เลยดั้น" แค่มุมภาพเดียว กลายเป็นไวรัล ดึงดูด นทท.แห่เช็คอินถ่ายภาพ อ.น้ำหนาวเตรียมดันเป็นซอฟพาวเวอร์
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
- สุราษฎร์ ฯ อ่วม ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน จนท.เร่งช่วยเหลือประกาศภัยพิบัติเพิ่มเป็น 8 อำเภอ เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
- ตรัง สถาบันพระบรมราชชนกเตรียมผลิต 9 หมอรุ่นใหม่ นวัตกรรมสุขภาพไทยสู่ระดับโลก
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ไปที่บ้านเลขที่ 26 ม.3 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ที่นายเรืองศักดิ์ (ผู้ต้องหา) พักอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นบ้านของนางลำไย เรือนแก้ว อายุ 67 ปี ย่าของนายเรืองศักดิ์ โดยได้พบกับ น.ส.นุชจรี อายุ 63 ปี และ น.ส.สมพร บุญจันทร์ศรี อายุ 72 ปี สองคนพี่น้อง ที่คอยอยู่ดูแลบ้าน และเลี้ยงเหลน วัย 2 ขวบ ชื่อ“น้องไผ่”ลูกชายของนายเรืองศักดิ์ กับอดีตภรรยาที่เลิกกันไปเมื่อ 2 ปีก่อน
น.ส.นุชจรี เล่าถึงเรื่องส่วนตัวของนายเรืองศักดิ์ หลานชายกับภรรยาใหม่ที่เพิ่งมีลูกน้อยด้วยกันว่า โดยปกติไม่ค่อยได้พบหน้าพูดคุยกันเท่าไหร่ เนื่องจากอยู่บ้านกันคนละหลัง ซึ่งตนเองจะอยู่หลังถัดไป เลขที่ 27 ส่วน น.ส.สมพร พี่สาว อยู่เลขที่ 27/1 ที่อยู่ติด ๆ กัน ส่วนบ้านหลังนี้เป็นของพี่สาว คือนางลำไย เรือนแก้ว ย่าของนายเรืองศักดิ์ ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช หลังเข้ารับการผ่าตัดนิ้วเท้าขวา เนื่องจากป่วยเป็นโรคเบาหวาน แต่ภรรยาของนายเรืองศักดิ์ ได้มาอยู่กินที่บ้านหลังนี้ร่วม 2 ปีแล้ว หลังจากที่เลิกกับภรรยาคนเก่า แม่ของน้องไผ่ ซึ่งตนเองไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันหรือไม่ แต่รู้เพียงว่า ภรรยาของนายเรืองศักดิ์ได้ขอกลับบ้านที่ จ.กระบี่ ช่วงก่อนเทศการส่งท้ายปี แต่นายเรืองศักดิ์ไม่อนุญาตให้ไป แต่ภรรยาของนายเรืองศักดิ์ไดแอบพาลูกน้อยหนีกลับบ้านไป อีกประมาณ 2-3 ต่อมาช่วงวันเกิดเหตุ ภรรยาของนายเรืองศักดิ์ได้โทรศัพท์ติดต่อมา เพื่อให้ไปรับกลับ นายเรืองศักดิ์จึงบอกฝากน้องไผ่ไว้กับตนเอง และออกจากบ้านไป จนกระทั่งมาทราบจากข่าวว่านายเรืองศักดิ์ก่อคดีขึ้นในที่สุด
“หลังทราบข่าวก็รู้สึกตกใจ และเป็นห่วงถึงความปลอดภัยในชีวิตตัวหลานชายเป็นอย่างมาก เพราะไม่ได้ติดต่อพูดคุยกันกับนายเรืองศักดิ์เลยหลังออกจากบ้านไป เนื่องจากไม่มีใครมีโทรศัพท์มือถือ ไม่สามารถติดต่อกันได้ อยากบอกผ่านสื่อให้หลานชายรู้ว่าทุกคนที่บ้านเป็นห่วง รวมถึงน้องไผ่ด้วย ขอให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา และอยากวอนขอไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด อย่าถึงขั้นเอาชีวิตกัน ขอให้หลานชายได้เข้ารับโทษทางกฎหมาย เพราะยังมีอีก 1 ชีวิต คือเด็กผู้ชายตัวน้อย ๆ ตาดำ ๆ อย่าง “น้องไผ่” ที่ต้องการพ่อ ต้องการผู้ดูแล สงสารอนาคตของเขา ไม่รู้อนาคตเขาจะอยู่อย่างไรต่อไป” น.ส.นุชจรี กล่าว
ติดตามข่าวย้อนหลังได้ที่ลิ้งก์ด้านล่าง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: