นครศรีธรรมราช : ตร.รวบ ชาวโรฮิงญา 3 คน หลบหนีเข้าเมือง พร้อมนายหน้าชาย 1 คน คาดนำส่งต่อประเทศเพื่อนบ้าน ถูกตั้งข้อหาหนัก ขณะพ่อเมืองลั่นต้องสาวให้ถึงต้นตอกลุ่มขบวนค้ามนุษย์นี้มาลงโทษให้ได้
วันที่ 11 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณี ฝ่ายปกครองอำเภอเชียรใหญ่ สนธิกำลัง กับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนครศรีธรรมราช และ ตำรวจ สภ.เชียรใหญ่ บุกเข้าจับกุมชาวโรฮิงญา จำนวน 3 คน ที่แอบลักลอบหลบหนีเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเยาวชนหญิงอายุ 16 ปี 2 คน และ 17 ปี 1 คน ได้ที่บ้านเช่า เลขที่ 424/1 ม. 7 ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช หลังได้รับแจ้งว่ามีบุคคลต่างด้าวอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จึงเข้าตรวจสอบพบว่าทั้ง 3 คน ไม่มีเอกสารประจำตัวและเอกสารการเดินทาง จึงเข้าควบคุมตัว พร้อมแจ้งให้ จนท.สาธารณสุขนำตัวไปตรวจหาเชื้อโควิดทันที เหตุเกิดช่วงบ่ายวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา
ล่าสุด นายกิตติพงษ์ รองเดช นายอำเภอเชียรใหญ่ เปิดเผยว่า ภายหลังเข้าทำการจับกุมเยาวชนหญิงชาวโรฮิงญาทั้ง 3 คน แล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นอันดับแรก และผลการตรวจก็ออกมาแล้ว ช่วงเช้าของวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา จากนั้นจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการฉีดยาฆ่าเชื้อที่บ้านเช่าหลังดังกล่าว และบริเวณใกล้เคียง เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ระหว่างรอผลการตรวจเชื้อโควิด-19 ได้กักตัวบุคคลทั้ง 3 ไว้ที่บ้านเช่าหลังดังกล่าวก่อน
ปรากฏว่าช่วงดึกของคืนวันที่ 9 มกราคม 2564 ได้มีนายละมอ ชาวพม่า ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ม.2 ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นคนนำชาวโรฮิงญาหญิงทั้ง 3 คน มาซ่อนตัวไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนที่จะส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย โดยก่อนหน้านี้นายละมอได้นำทั้ง 3 คน หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ อ.ชะอวด ช่วงคืนวันที่ 9 มกราคม 2564 และได้นำทั้ง 3 คน มาหลบซ่อนต่อที่บ้านเช่า ในพื้นที่ ม. 2 ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ ก่อนถูกจับกุมได้ในเย็นวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา
นายกิตติพงษ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียรใหญ่ ทราบว่า นายละมอ เป็นชาวโรฮิงญา ที่อาศัยอยู่ใน จ.นครศรีธรรมราชมานาน สามารถพูดภาษาไทย และสำเนียงใต้ได้อย่างชัดเจน โดยได้เช่าบ้านหลังดังกล่าวไว้เพื่อเป็นที่พักพิงและหลบซ่อนตัวของบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามา โดยในครั้งนี้ได้นำชาวโรฮิงญาหญิงทั้ง 3 คน เข้ามาพักอาศัยก่อนชั่วคราว เพื่อรอเวลาส่งตัวต่อไปยังประเทศมาเลเซีย แต่ได้มาถูกจับกุมเสียก่อน
นายละมอ กล่าวว่า ตนได้สอบถามหญิงทั้ง 3 คน เป็นภาษาพม่า ทราบว่า มาจากรัฐยะไข่ เข้ามาทางเมียวดี ผ่านมายัง แม่สอด จากนั้นได้เดินทางลงมายังทางใต้ และลงต่อมาที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีคนมาส่งตามจุดนัดหมาย ซึ่งตนเองได้ไปรับตัว ก่อนที่จะพามาพักอาศัยที่บ้านหลังดังกล่าว จนมาถูกจับได้ในที่สุด และทราบเพียงว่าผู้หญิงทั้ง 3 คน ต้องการที่จะเดินทางเข้าไปแต่งงานที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเรื่องอื่นตนไม่ทราบทั้งสิ้น
ด้านนาย นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ได้รับรายงานตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2564 เบื้องต้นได้สั่งการให้เร่งฆ่าเชื้อบริเวณที่เกิดเหตุ และในชุมชนใกล้เคียงในทันที เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน จากนั้นให้รีบตรวจเชื้อโควิด-19 ซึ่งผลการตรวจมีผลเป็นลบ
อย่างไรก็ตามคงต้องสืบสวนสอบสวนหาที่มาที่ไปของบุคคลทั้ง 4 คน พร้อมสั่งดำเนินคดีทางกฎหมายในทันที และขอให้ทุกอำเภอตรวจสอบเรื่องแรงงานต่างด้าวที่มีการลักลอบเข้ามา เข้าใจว่าประเด็นนี้อาจเข้าข่ายลักลอบค้ามนุษย์ ซึ่งจะใช่หรือไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกันอีกครั้ง ซึ่งทั้งหมดจะถูกคุมตัวไปสอบสวนขยายผลทันทีถือว่าเป็นกรณีร้ายแรง
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังระบุอีกว่า นครศรีธรรมราช ได้มีมาตรการตั้งด่านอย่างเข้มข้นถึง 11 ด่าน และ 7 ด่านใน 11 ด่านเป็นด่านความมั่นคงที่มีมาตรการรองรับอยู่แล้วจะเห็นได้ว่าการผ่านเส้นทางเข้ามาจะสามารถจับกุมได้บ่อยครั้ง
