นครศรีธรรมราช :ตร. ยังไม่ออกหมายจับ ‘ชายขืนใจเด็กวัย 13’ รอรวบรวมหลักฐาน ขณะ ผกก.สภ.พรหมคีรี ขอเวลาเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพสอบปากคำเพิ่ม พร้อมผลตรวจร่างกาย ด.ญ.วัย 13 ปี ก่อนออกหมายจับแฟนใหม่แม่ ยืนยัน ใช้เวลาไม่นาน 
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ความคืบหน้า หลังพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบปากคำ รวมถึงสองแม่-ลูกผู้เสียหาย กรณีเด็กหญิงบี นามสมมุติ วัย 13 ปี ถูกนายไสว กองโล่ คนขับรถประจำตัวเจ้าสำนักสงฆ์คลองแคว ม.4 ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นแฟนใหม่ของแม่ ได้บังคับขืนใจโดยการขอมีเพศสัมพันธ์มานานนับปี ภายในห้องพักหลังสำนักสงฆ์ และรีสอร์ทใกล้เคียง จนกระทั่งตั้งครรภ์ 6 เดือน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 
ล่าสุด พ.ต.อ.ปิติพัฑณ์ อนัญลักษณ์ ผู้กำกับการ สภ.พรหมคีรี ได้ให้ข้อมูลเพียงเล็กน้อย โดยไม่ขอเป็นข่าว ขณะกำลังให้ลูกน้องตัดผมอยู่ ว่าเพิ่งทราบเรื่อง ยังไม่สามารถให้ข้อมูลในทางคดีได้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็ก ซึ่งมีความละเอียดอ่อน ต้องระมัดระวังอย่างมาก ต้องรอให้เจ้าหน้าที่สอบสวนแล้วเสร็จเสียก่อน ในขั้นตอนกระบวนการหลังเสร็จสิ้นการให้ปากคำของผู้เสียหายต่อพนักงานสอบสวนแล้ว จะต้องรอผลสอบปากคำเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ รวมถึงรอผลตรวจร่างกายผู้เสียหายจากแพทย์อย่างละเอียด พนง.สส.จึงจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนต่อไป คือ การออกหมายจับผู้กระทำความผิด ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นานนัก
“อย่างไรก็ตาม ผกก.ได้ตั้งคำถามกลับมายังสื่อมวลชนว่า ทราบความหมายของคำว่า “ข่มขืน” หรือไม่ พร้อมให้คำตอบต่อไปว่า ข่มขืน คือ การบังคับโดยใช้กำลัง แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ถึงรายละเอียดได้ จำเป็นที่จะต้องให้ จนท.สหวิชาชีพ เข้ามาทำการสอบปากคำ ขณะนี้เป็นเพียงการสอบสวนเบื้องต้น คนผิดเป็นใคร อยู่ที่ไหน ก็ยังไม่รู้ เป็นเพียงการกล่าวหากันเท่านั้น จึงยังไม่สามารถให้ข้อมูลใด ๆ กับสื่อได้”
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่หลังทราบข่าว ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของนายไสว หรือที่ชาวบ้านเรียกกัน “หนังไหว” ว่ารู้สึกสบายใจขึ้นที่เรื่องแดงขึ้นมา เพราะชาวบ้านทุกคนต่างรู้ถึงพฤติกรรมของ นายไสวเป็นอย่างดี และรู้สึกหดหู่ใจที่ทราบว่า เด็กหญิงวัย 13 ปี ที่ถูกกระทำ ตั้งท้อง รู้สึกสงสารเด็กเป็นอย่างมาก รวมถึงแม่ของเด็กเองก็ไม่ค่อยปกติเหมือนคนทั่วไป หลังเกิดเหตุ 2 วัน ตัวนายไสวเองยังคงพักอาศัยอยู่ที่สำนักสงฆ์ โดยได้ออกตามหาสองแม่ลูกไปทั่ว รวมถึงไปตามหาที่สถานีตำรวจด้วย แต่ จนท.กลับไม่ดำเนินการอะไรกับนายไสว จนขณะนี้นายไสวได้หลบหนีออกไปจากสำนักสงฆ์แล้ว ห้องพักปิดประตูเงียบ จึงอยากให้ ตร.เร่งสืบสวน และจับกุมตัวนายไสวให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ควรที่จะเข้าควบคุมตัวนายไสวไว้ก่อน ไม่ควรมองคดีนี้เป็นคดีเล็ก ๆ ตร.ไม่ควรนิ่งเฉย และปล่อยให้ล่วงเลยเวลาหลายวันจนผู้ก่อเหตุหลบหนี ทั้ง ๆ ที่ผู้เสียหายเป็นเยาวชน ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าพนักงานด้วยตนเอง พร้อมระบุตัวบุคคลที่กระทำไว้ชัดเจน แถมคดีนี้อาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์เสียด้วยซ้ำ
อ่านข่าวย้อนหลังได้ที่ลิ้งก์ด้านล่างนี้
