นครศรีธรรมราช : สองคู่กรณีอีสาน-ใต้ เหตุรถยนต์ชนกัน โชว์ของดีติดตัว หลังรอดปลอดภัย มีเพียงรอยแมวข่วนเล็กน้อย เชื่อเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือบูชา “หลวงปู่ทวด และเจ้าปู่กุดเป่ง”
เป็นอีกหนึ่งความเชื่อความศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบุคคล 2 ภูมิภาค คือ ภาคใต้และภาคอีสาน ที่ได้มาประสบอุบัติเหตุร่วมกัน โดยคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ขับรถยนต์กระบะมาชนกัน บนถนนสายชลประทานบ้านน้ำพุ หมู่ 4 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งหากดูจากสภาพแล้วน่าจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ในเหตุที่เกิดแน่นอน แต่ปรากฏว่าผู้ประสบเหตุต่างได้รับบาดเจ็บกันเพียงเล็กน้อยแค่รอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น จึงต่างเชื่อว่าเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือบูชาติดตัวและติดรถไว้ตลอดการเดินทาง ได้ให้การคุ้มครองให้ปลอดภัยแคล้วคลาด จากหนักกลายเป็นเบา
อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้น ระหว่างรถกระบะ ยี่ห้อเชฟโรเลต (คันสีส้ม) ทะเบียน ผค 5168 นครศรีธรรมราช ซึ่งมีนายคำรณ วิลัยยะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122/1 ม.5 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้ขับมาจากทางสายหลัก เพื่อมุ่งหน้าจะไปบ้านแฟนสาว ที่ อ.ลานสกา ขณะที่กำลังขับใกล้ผ่านทางร่วมทางแยก มีรถกระบะโตโยต้าสีดำ ทะเบียน ผบ 2528 ขอนแก่น ของนายณฐชัย ศรีไชยบาล อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว มีอาชีพเป็นเซลล์จำหน่ายปุ๋ย ขับพุ่งชนท้ายอย่างจัง จนเป็นเหตุให้รถกระบะคันสีส้มของนายคำรณ พุ่งตกลงไปพลิกตะแคงอยู่ในคูน้ำ
ข่าวน่าสนใจ:
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
- ภาคธุรกิจเอกชนหอการค้าชัยภูมิชี้แนวทางรัฐบาลพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก!
- สุราษฎร์ ฯ อ่วม ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน จนท.เร่งช่วยเหลือประกาศภัยพิบัติเพิ่มเป็น 8 อำเภอ เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
- โครงการวิลล่าหรูเกาะสมุยฝืนคำสั่งรื้อถอนอาคาร ยังปล่อยให้ต่างชาติเช่าวิลล่า
ส่วนรถกระบะคันสีดำของนายณฐชัย ได้รับความเสียหาย จอดแน่นิ่งเกยคันคูน้ำอยู่ข้างถนน ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวต่างพากันมามุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบและช่วยเหลือ แต่ละคนต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า น่าจะมีผู้เสียชีวิต หรือไม่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน เนื่องจากเสียงชนดังสนั่นไปทั่วพื้นที่
นางสุธิดา สุดรักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 เจ้าของพื้นที่ ยืนยันว่า บริเวณทางแยกแห่งนี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งทุกครั้งจะมีผู้บาดเจ็บ เพราะด้วยความประมาทของผู้ขับขี่ ที่ไม่ช่วยกันระมัดระวังในจุดทางแยกทางร่วม ประกอบกับถนนเส้นนี้เป็นทางยาว และมีพื้นผิวถนนราบเรียบวิ่งสบาย ทำให้ผู้ใช้รถ ขับกันมาด้วยความเร็ว
ด้าน น.ส.ธนสินี พัฒนิบูลย์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 625/4 หมู่ 11 ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น แฟนสาวของนายณฐชัย เจ้าของรถกระบะคันสีดำ ที่นั่งโดยสารมาพร้อมกับเพื่อนร่วมงานอีกคน เล่าให้ฟังว่า ยังรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เสียงของชาวบ้านก้องเข้ามาในหูขณะเกิดเหตุว่า น่าจะตายแน่ ๆ เมื่อตั้งสติได้ รู้ว่าตนเองพร้อมแฟน และเพื่อนอีกคนไม่เป็นอะไร จึงรีบออกจากรถทันที และได้สำรวจทั่วร่างกาย พบว่าแต่ละคนมีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น
เชื่อว่าเป็นเพราะผ้ายันต์แดงของ “เจ้าปู่กุดเป่ง” อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ที่พี่น้องชาวอีสานให้ความเคารพนับถือ กราบไหว้บูชา มาตั้งแต่สมัยปู่ย่า ข้อความในผ้ายันต์ระบุความศักดิ์สิทธิ์ไว้ด้าน “เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย และลาภ ยศ เงิน ทอง” ถือเป็นความโชคดีอย่างมาก ที่ตนเองมีไว้นับถือบูชา และนำติดตัวติดรถไว้ตลอดการเดินทาง มีทั้งสติ๊กเกอร์ รูปเจ้าปู่ และผ้ายันต์
ส่วนนายคำรณ วิลัยยะ เจ้าของรถกระบะคันสีส้มที่ตกลงไปในคูน้ำ กล่าวว่า โชคดีมากที่ไม่เป็นอะไร มีเพียงรอยแผลเล็ก ๆ บริเวณท้ายทอยเท่านั้น คงเป็นเพราะดวงยังไม่ถึงฆาต สิ่งของมีค่าต่าง ๆ ที่อยู่ภายในรถ รวมถึงพระเครื่องจมน้ำหมดแล้ว มีเพียงพระเล็ก ๆ องค์นี้องค์เดียวที่แฟนของตนเองนำมาเหน็บไว้ที่รถ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นพระอะไร รู้เพียงว่าพบภายใน “วัดเจดีย์ ไอ้ไข่” ที่ อ.สิชล และไม่รู้นึกอะไรเช่นกัน จึงนำพระองค์นี้ขึ้นมาเหน็บคอเสื้อไว้ในวันนี้
ต่อมา นายณรงค์ชัย สุวรรณกาญจน์ เจ้าหน้าที่เก็บกู้ของกลาง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นำรถสไลด์เข้ามาเพื่อเก็บกู้รถทั้ง 2 คัน ที่ประสบอุบัติเหตุ พบเห็นพระองค์ดังกล่าวที่นายคำรณ เหน็บห้อยปกคอเสื้ออยู่ จึงขอดูโดยใช้แว่นขยายส่องพระส่องดู เพียงไม่กี่วินาที นายณรงค์ชัยก็บอกว่า พระดังกล่าว คือ “หลวงปู่ทวด” ที่คนใต้ให้ความนับถือบูชา ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มากในด้านปกปักรักษา คุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย ส่วนจะเป็นรุ่นไหนยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากหลวงปู่ทวดนั้น ทำกันออกมามากมายหลายรุ่น แต่หลวงปู่ทวดเป็นพระที่ดีอยู่แล้ว จึงทำให้แคล้วคลาดปลอดภัยในเหตุการณ์ครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม อีกสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ รวมถึงครั้งอื่น ๆ ที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะวิสัยทัศน์ในการมองเห็นของผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะ ไม่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล โดยเฉพาะบริเวณจุดทางร่วมทางแยก ตลอดสองฝั่งข้างทาง ที่ถูกปกคลุมไปด้วยต้นหญ้าขนาดน้อยใหญ่รกทึบ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: