นครศรีธรรมราช : ครอบครัวสาวเหลียด จิราวรรณ แก้วเพชร สู้ต่อ หลังผลพิสูจน์ไม่ได้เสียชีวิตจากการถูกทำร้าย หารือ เตรียมเคลื่อนศพไปขอผ่าพิสูจน์ ที่ รพ.สงขลานครินทร์
วันที่ 25 มีนาคม 2564 ความคืบหน้าการเสียชีวิตของ นางจิราวรรณ (สาวเหลียด) แก้วเพชร อายุ 39 ปี ที่ครอบครัวและญาติยังแคลงใจสาเหตุการเสียชีวิต เชื่อว่าถูกทำร้ายร่างกาย โดยเฉพาะการถูกด้ามไม้กวาดทะลวงเข้าไปในของลับ แม้ผลพิสูจน์ของ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ออกมาว่า ไม่ได้เสียชีวิตจากการถูกทำร้าย แต่ผู้ตายมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว
ล่าสุด ที่บ้านเลขที่ 12/5 หมู่ 6 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช สถานที่เตรียมจัดงานบำเพ็ญกุศลศพนางจิราวรรณ หลังจาก น.ส.จิรษา (แหวน) นิตสมบูรณ์ อายุ 21 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ไปติดต่อขอรับศพแม่มาจัดการตามประเพณี ต่อมา มีการเคลื่อนย้ายศพ นางจิราวรรณ จาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช มาไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพ หลังญาติ ๆ และชาวบ้านช่วยกันตระเตรียมสถานที่ไว้พร้อม ระหว่างรอหารือถึงการเตรียมนำศพไปผ่าพิสูจน์ถึงสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง ที่ รพ.สงขลานครินทร์ จ.สงขลา
ทั้งนี้ ขณะเตรียมนำศพนางจิราวรรณ ออกจาก รพ.นั้น ญาติได้จุดธูปคนละ 1 ดอก เพื่อเป็นการเชิญดวงวิญญาณผู้ตายกลับบ้านตามความเชื่อ โดยมีญาติคนหนึ่งบอกกล่าวผู้ตายว่า ขอให้ช่วยเรื่องคดี ให้มีความคืบหน้า ขอให้ตำรวจจับคนที่ทำร้ายผู้ตาย จนเสียชีวิตให้ได้
น.ส.จิรษา นิตสมบูรณ์ ลูกสาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้ามารับศพแม่ ตำรวจ สภ.พระพรหม เชิญตัวไปสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง ตั้งแต่เวลา 09.00-13.00 น แต่ตำรวจยังไม่ให้ข้อมูลความคืบหน้าเรื่องคดีแม้แต่น้อย ยอมรับว่าหนักใจมาก เพราะที่ผ่านมา ตำรวจเรียกตัวตนเองไปสอบปากคำอย่างเดียว โดยเฉพาะเมื่อวาน ถูกสอบปากคำนานเกือบ 9 ชั่วโมง ตำรวจถามแต่เรื่องเดิม ๆ ที่เกิดขึ้น ตนเองก็ให้ปากคำยืนยันไปเหมือนเดิมว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ทำร้ายร่างกายแม่ของตนเองจนบาดเจ็บและเสียชีวิตในที่สุด
ด้านนายขจรศักดิ์ นิตสมบูรณ์ อายุ 23 ปี ลูกชายคนโตของผู้เสียชีวิต ที่เพิ่งเดินทางมาจาก จ.พังงา มาถึงวานนี้ พูดคุยกับผู้สื่อข่าวว่า เสียใจต่อการจากไปของแม่ และยิ่งรู้สึกแย่ไปอีก เมื่อทราบข่าวว่าผลการตรวจของแพทย์ออกมาว่า แม่ไม่ได้เสียชีวิตจากการถูกทำร้าย จึงอยากตั้งคำถามกลับไปว่า แล้วแม่เสียชีวิตจากสาเหตุใด
“หลังจากนี้จะต้องปรึกษากับพี่สาว และญาติพี่น้องทุกคน เพื่อจะขอทำเรื่องย้ายร่างของแม่ไปผ่าพิสูจน์ตรวจสอบอย่างละเอียด ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ หาดใหญ่ เพราะไม่ค่อยมั่นใจผลตรวจของแพทย์ใน จ.นครศรีธรรมราช ที่ออกมา และจะไม่ขอเผาศพแม่ จนกว่าจะได้ความกระจ่างแจ้ง”
นายขจรศักดิ์ ยังให้ข้อมูลซึ่งอาจเป็นประเด็นสำคัญ ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุใช้ความพยายามติดต่อขอพูดคุยหลังเกิดเหตุ ขณะแม่ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ โดยลูกชายผู้ก่อเหตุทักข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวมาหาตนเอง หลังเกิดเหตุไม่นาน เพื่อขอเคลียร์ จึงตอบไปว่าให้ไปคุยกันในชั้นศาล จากนั้นก็ไม่ได้พูดคุยสื่อสารอะไรกันอีก ส่วนเรื่องการพบเสื้อผ้าในบ่อพักน้ำเสียที่บังกะโลเกิดเหตุ เชื่อว่าแม่ถูกถอดเสื้อผ้าออกอย่างแน่นอน ก่อนจะมีการลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ และนำเสื้อผ้าไปทิ้งในบ่อพักน้ำของบังกะโลจนเน่าเปื่อยอย่างที่พบเห็นกัน
ขณะที่ญาติคนอื่น ๆ ยืนยันว่า เสื้อผ้าที่พบนั้น เป็นชุดเดียวกับที่นางจิราวรรณสวมใส่ในวันก่อนเกิดเหตุ 21 ก.พ.64 ซึ่งนางจิราวรรณเดินออกจากบ้าน แล้วไปขึ้นรถของนายไพบูลย์ กำแพงดี สามีของนางยุภา (สาวแข้ง) สุขทอง ที่ร้านค้าหน้าบ้าน ส่วนประเด็นคลิปเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือ กลับไม่มีร่องรอยเลือดนั้น เป็นคนละเรื่องกับประเด็นที่เกิดขึ้น คลิปอาจถูกตัดต่อมาเฉพาะบางส่วนเท่านั้น และอาจมีการทำลายหลักฐาน รวมถึงเสื้อผ้าที่ถูกนำไปทิ้งในบ่อพักน้ำด้วย
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
นครฯ – ครอบครัว ‘สาวเหลียด’ นำศพกลับบ้านเตรียมบำเพ็ญกุศล ระหว่างรอส่ง มอ.หาดใหญ่ ผ่าพิสูจน์ (มีคลิป)
นครฯ – เปิดใจ ‘สาวแข้ง’ ยืนยันไม่ได้รุมทำร้าย ไม่ได้ใช้ด้ามไม้กวาดทะลวงอวัยวะเพศสาวหม้าย จนตาย
