นครศรีธรรมราช : แม่ค้า ชี้แจง เหตุหอยแมลงภู่ลีบทั้งน้ำตา เรื่องเล็กไม่น่าทำเป็นเรื่องใหญ่ วอนสังคมเข้าใจ หวั่นค้าขายไม่ได้ แท้จริงไม่สามารถรู้ได้ถึงเนื้อในตัวหอย แต่มีความรับผิดชอบทุกครั้งที่ค้าขาย
วันที่ 1 เมษายน 2564 จากกรณี นายกันตภณ หมื่นวิชิต อายุ 48 ปี อยู่ ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช พนักงาน บริษัทผลิตน้ำแข็งและน้ำดื่มแห่งหนึ่ง โพสต์ภาพหอยแมลงภู่จำนวน 1 กก. ที่ซื้อมาจากแม่ค้าขายหอยในตลาดนัดเย็น ข้างวัดพิศาลนฤมิต อ.ร่อนพิบูลย์ เมื่อวันอังคารที่ 30 มี.ค.64 ที่ผ่านมา เพื่อนำมาลวกรับประทาน แต่ผลปรากฏว่าไม่สามารถนำมารับประทานได้ เนื่องจากเนื้อด้านในหอยเล็กลีบ และมีกลิ่นเหม็น พร้อมระบุข้อความตำหนิแม่ค้าที่นำหอยไม่ดีมาขาย ระบุว่า “เรียนคุณแม่ค้าที่เอาหอยแมลงภู่มาขาย บริเวณวัดพิศาลนฤมิต อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ตรงทางเข้าที่ขายปลา และเอาหอยแมลงภู่ใส่ถุงขายกิโลกรัมละ 40 บาท ผมถามว่าหอยแบบนี้คุณกินได้ไหม ที่ผมไม่ดูเพราะคิดว่าแม่ค้า คงจะมีจรรยาบรรณในการขายของ”
จนกลายเป็นประแสดราม่าขึ้นมาในโลกโซเชียล ซึ่งชาวเน็ตต่างพากันแสดงความเห็น ทั้งตำหนิแม่ค้าที่นำของไม่มีคุณภาพมาวางขาย และให้กำลังใจแม่ค้าเพราะอาจจะไม่รู้ว่าหอยเป็นแบบไหน
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปตรวจสอบเฟซบุ๊กของผู้โพสต์ ปรากฎว่า ได้ลบโพสต์ดังกล่าวไปแล้ว
ขณะที่ นางยุวพดี นนทภักดิ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/3 ม.7 ต.ควนชุม อ.ร่อนพิบูลย์ แม่ค้าขายหอยแมลงภู่ดังกล่าว ชี้แจงผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนเองทำอาชีพค้าขายมากว่า 10 ปี แล้ว ก่อนนี้ขายกุ้ง แต่เนื่องด้วยกุ้งราคาต้นทุนสูง จึงเปลี่ยนมาขายหอยแทน ซึ่งขายมาได้ประมาณ 5 ปี โดยขายหอยทุกชนิดตามตลาดนัดทั่วไป วันเกิดเหตุเป็นตลาดนัดช่วงเย็นของวันอังคาร ที่ตลาดวัดพิศาลนฤมิต ที่มาขายตามปกติ หอยที่นำมาขายนั้นมาจาก จ.กระบี่ โดยสั่งซื้อมาจากแม่ค้าที่ซื้อขายอาหารทะเลกันมากว่า 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีปัญหาในลักษณะเช่นนี้มาก่อน แต่การขายแต่ละครั้งก็บอกลูกค้าว่า หากมีปัญหาให้มาคืนหรือเปลี่ยนได้ เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่าภายในเปลือกหอยนั้นจะมีตัวหรือไม่มี เล็กหรือใหญ่
ไลฟ์สด แม่ค้าขายหอยแมลงภู่ แจงดราม่าหอยลีบ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1950424725110361&id=100004285561138
โดยปกติแล้ว ตนเองจะรับหอยมาขาย 30-40 กก./วัน ขายในราคา 40 บ./กก. ซึ่งในวันนั้นยังไม่ทราบว่าขายให้ใครไปบ้าง แต่จะขายจนหมดวันต่อวัน และมารู้เรื่องในวันต่อมา เพราะเพื่อนเปิดเฟซบุ๊กให้ดู ทำให้รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และได้เร่งติดต่อกลับไปหาเจ้าของเฟซบุ๊กที่โพสต์ ซึ่งเป็นลูกค้าที่ซื้อหอยไป พร้อมพูดคุยกล่าวขอโทษ และแสดงความรับผิดชอบโดยจะขอคืนเงินให้ ซึ่งทางลูกค้าก็ยินดีที่จะลบโพสต์นั้น กระทั่งมาพบว่าตกเป็นข่าวทางโทรทัศน์ช่องหนึ่งในวันถัดมา ทำให้รู้สึกแย่มากยิ่งขึ้น
“ที่จริงได้พูดคุยกันรู้เรื่องแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ต่อไปจะทำมาหากินอย่างไร กังวลว่าจะมีผลกระทบต่อการค้าขาย ตนเองต้องเลี้ยงดูลูก รายได้ก็น้อยนิดแค่ 3-4 ร้อยบาทต่อวัน อยากให้สังคมเข้าใจว่า ตนเองก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าหอยจะตัวขนาดไหนเล็กหรือใหญ่ แต่ยืนยันว่าซื่อสัตย์ในอาชีพของตนเอง ค้าขายมากว่า 10 ปี แล้ว และพร้อมรับผิดชอบทุกกรณีที่ลูกค้ามีปัญหา” นางยุวพดี กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม่ค้าขายหอยรายนี้ ได้ขอให้ทางผู้ซื้อออกมาขอโทษตนเอง เพื่อให้สังคมรับทราบ เพราะก่อนหน้าที่ได้โทรผ่านเฟซบุ๊กพูดคุยกับทางผู้ซื้อนั้น ได้ตกลงกันว่าจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ โดยการลบโพสต์ออกจากทุกกลุ่มไลน์ และตกลงกันว่าวันอังคารหน้า จะรับผิดชอบคืนเงินค่าเสียหายให้ แต่วันถัดมากลับเป็นข่าวดังกว่าเดิม ทำให้ตนเองเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียง “ไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราวต่อกัน เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องเล็ก อยากจะทำมาหากินต่อ แต่จริงแล้วมีอะไรก็ควรมาพูดคุยกันก่อน พร้อมวอนสังคมโปรดเข้าใจ” นางยุวพดี กล่าวทั้งน้ำตา
ล่าสุด นางยุวพดี ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ร่อนพิบูลย์ เพื่อดำเนินคดีเจ้าของเฟซบุ๊กที่กล่าวหา ตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์แล้ว
